บริการแปลและรับรองเอกสารภาษาฝรั่งเศส โดยทีมงานมืออาชีพเจ้าของภาษา
สถาบันแปลภาษา ไอทีเอส (iTS - Immigration and Translation Service Thailand)
โทร 094-8958999 Line Official ID : @iTranslation
สถาบันแปลภาษา ไอทีเอส (iTS - Immigration and Translation Service Thailand)
โทร 094-8958999 Line Official ID : @iTranslation
ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี สมาคมฝรั่งเศสให้บริการแปลเอกสารภาษาจากฝรั่งเศส ↔ ไทย และภาษาฝรั่งเศส ↔ อังกฤษ บริการของเราครอบคลุมทั้งเอกสารราชการ (เช่น งานทะเบียนราษฎร หนังสือรับรองการทำงาน เอกสารทางการศึกษา ใบปริญญา ระเบียนแสดงผลทางการศึกษา และใบขับขี่ …) รวมไปถึงเอกสารทางกฎหมาย (เช่น สัญญาซื้อขาย คำพิพากษาศาล สัญญาจ้างงาน พินัยกรรม…)
เรามีบริการแปลและรับรองเอกสารภาษาฝรั่งเศสโดยสถาบันแปลภาษาของเรา และบริการแปลและรับรองเอกสารภาษาฝรั่งเศสโดยนักแปลที่ได้รับการรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย รวมไปถึงสถานเอกอัครราชทูตประเทศเบลเยียม แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ก่อนการใช้บริการลูกค้าสามารถสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อเลือกบริการแปลแลัรับรองเอกสารภาษาฝรั่งเศสให้ตรงตามที่ลูกค้าจะนำไปใช้งาน เพราะหากแปลและรับรองเกสารไปไม่ถูกประเภท ลูกค้าอาจจะไม่สามารถใช้เอกสารได้ และหากต้องมีการแปลและรับรองเอกสารภาษาฝรั่งเศสใหม่จะต้องชำระค่าบริการใหม่ทั้งหมด
บ่อยครั้งที่เราเจอเหตุสุดวิสัยทำให้ต้องใช้เอกสารแปลแบบด่วน ในกรณีนี้ เรามีบริการทางเลือก “งานแปลแบบด่วน” โดยจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวน 50 % ของราคาเอกสารปกติ ซึ่งจะสามารถรับเอกสารแปลได้ภายในวันเดียวกันหรือวันรุ่งขึ้น พิจารณาตามจำนวนงานที่แผนกแปลมีอยู่ในขณะนั้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลา กรุณาส่งเอกสารที่ต้องการแปลมาที่อีเมล (its@ilc.ltd) ท่านจะได้รับใบเสนอราคาภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง (ตามเวลาทำการ)
ขั้นตอนปกติในการแปลและรับรองคําแปลเอกสารทางราชการของฝรั่งเศสเพื่อยื่นประกอบหลักฐานที่หน่วยงาน ราชการในประเทศไทย
รับรองสําเนาเอกสารภาษาฝรั่งเศสที่ต้องการแปล (ต้องนําต้นฉบับไปแสดงด้วย) ติดต่อสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ทั้งนี้ ต้องทำนัดที่ https://consulat.gouv.fr/ambassade-de-france-a-bangkok/rendez-vous ท่านที่พำนักอยู่ที่ฝรั่งเศสสามารถติดต่อกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสเพื่อดำเนินการดังกล่าวได้
การรับรองสำเนาเอกสารนั้นขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน กรุณาติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการสอบถามว่าต้องการรับรองสำเนาเอกสารหรือไม่ ในกรณีที่ต้องการรับรองสำเนา ต้องดำเนินการนำเอกสารไปรับรองสำเนาความถูกต้องที่กระทรวงต่างประเทศ หรือกรมการกงสุลไทยให้เรียบร้อยก่อนนำเอกสารมาแปล
สำหรับกรณีต่อไปนี้ต้องนำสำเนาไปรับการรับรอง (รำบรองสำเนาถูกต้อง)
เอกสารที่คำแปลต้องผ่านการรับรองโดยสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย(ใบขับขี่เป็นต้น)
เอกสารที่คำแปลต้องผ่านการรับรองโดยกระทรวงต่างประเทศไทย (หนังสือเดินทาง ทะเบียนสมรส สูติบัตร ปริญญาบัตร เป็นต้น)
***การนำคำแปลภาษาไทยไปรับรองที่กระทรวงต่างประเทศไทย คำแปลนั้นจะต้องได้รับการรับรองจากสถาณเอกอัคราชทูตประจำประเทศไทยเสียก่อน มิเช่นนั้น กระทรวงต่างประเทศไทยจะปฎิเสธคำขอรับรองคำแปลของท่าน
***ในกรณีที่ต้องนำคำแปลภาษาไทยไปรับรองที่สถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ท่านจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
นำสำเนาเอกสารฝรั่งเศสไปรับการรับรองจากสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเป็นอันดับแรกก่อนนำไปดำเนินการแปลเอกสาร
สำเนาที่ผ่านการรับรองจากสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยแล้ว สามารถนำไปแลกับนักแปลที่มีรายชื่อขึ้นทะเบียนกับทางสถานทูตฝรั่งเศส (ต้องมีตราประทับและรายมือชื่อผู้แปล จึงจะนำไปแนบกับคำแปลเพื่อขอรับรองคำแปลจากสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้)
นำคำแปลไปรับรองจากสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย (หากไม่มีตราประทับและรายมือชื่อของผู้แปลบนเอกสารฝรั่งเศสที่ผ่านการรับรองสำเนามาก่อนนี้ สถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยจะปฎิเสธคำขอรับรองคำแปลของท่าน)
ดังนั้น ท่านต้องไปติดต่อสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย 2 ครั้ง คือ ก่อนและหลังการแปล
การแปลเอกสารจากภาษาเป็นภาษาฝรั่งเศส หากต้องการนำเอกสารดังกล่าวไปรับรองที่สถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยจะต้องแปลกับทักแปลที่มีรายชื่อขึ้นทะเบียนกับทางสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเท่านั้นจึงจะสามารถรับรองได้ หากท่านต้องการแปลเอกสารกับทางนักแปลที่มีรายชื่อขึ้นทะเบียนกับทางสถานทูตฝรั่งเศส ระยะเวลาในการแปลจะขึ้นอยู่กับประเภทของเอกสาร ระยะเวลาเริ่มต้นที่ 3-5 วันทำการขึ้นไป
การับรองคำแปลโดยสถานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย จะต้องทำการนัดหมายก่อนล่วงหน้าเท่านั้น ไม่สามารถนำเอกสารเข้าไปยื่นรับรองโดยไม่ได้มีการนัดหมายก่อนล่วงหน้าได้ และหากเอกสารมีมากกว่า 5 ฉบับจะต้องทำการนัดหมาย 2 รอบ
รายการเอกสารที่จำเป็นต้องแปลเพื่อยื่นแสดงเป็นหลักฐานต่างๆ หรือเพื่อใช้ในการพำนักอยู่ในประเทศไทย ท่านจะต้องสอบถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ทางสถาบันของเราไม่สามารถระบุให้ท่านได้ เนื่องจากในบางกรณีหน่วยงานนั้นๆ จะพิจารณาเป็นรายบุคคล หรือมีกฎเกณไม่เหมือนกันในแต่ละเขตหรืออำเภอ
แปลเอกสารราชการไทย
แปลบัตรประจำตัวประชาชน (หน้า-หลัง) 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี (หน้า-หลัง) 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลใบอนุญาตขับรถยนต์ประเทศไทย (หน้า-หลัง) 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลใบอนุญาตขับรถยนต์ประเทศฝรั่งเศส (หน้า-หลัง) 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือเดินทาง 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลสูติบัตร 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลมรณบัตร 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองการเกิด 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลปริญญาบัตร 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลประกาศณียบัตร 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองสำเร็จการศึกษา 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลระเบียนแสดงผลการเรียนมัธยมศึกษา 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลระเบียนแสดงผลการเรียนมหาวิทยาลับ 1800 (รับรองจากสถาบันแปล) / 2100 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลสำเนาทะเบียนบ้าน 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือสำคัญการเปลี่ยนนามสกุล 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองการจดทะเบียนสมรส 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองการจดทะเบียนหย่า 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลทะเบียนสมรส (คร) 1800 (รับรองจากสถาบันแปล) / 2100 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลทะเบียนหย่า (คร) 1800 (รับรองจากสถาบันแปล) / 2100 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองโสด 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองการทำงาน 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองเงินเดือน 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือยินยิมให้ผู้เยาว์(บุตร)เดินทางไปต่างประเทศ 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลใบสอบปากคำ (แบบ ปค.14) 1800 (รับรองจากสถาบันแปล) / 2100 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภงด. 90/91) 1800 (รับรองจากสถาบันแปล) / 2100 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลใบเสร็จรับเงินภาษี 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลเอกสารทางกฎหมาย 1800 (รับรองจากสถาบันแปล) / 2100 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลเอกสารราชการฝรั่งเศส
แปลบัตรประจำตัวประชาชน (หน้า-หลัง) 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลบัตรหนังสือเดินทาง 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลปริญญาบัตร 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลประกาศณียบัตร 1200 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1500 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองต่างๆ 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองการทำงาน 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองเงินเดือน 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลหนังสือรับรองบริษัท 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลสมุดบันทึกทะเบียนบ้าน 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลทะเบียนสมรสฉบับคัดลอก 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลสูติบัตรฉบับคัดลอก 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลสูติบัตร 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลทะเบียนสมรส 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
แปลมรณบัตรฉบับสมบูรณ์ 1500 (รับรองจากสถาบันแปล) / 1800 บาท (รับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนสถานทูตฝรั่งเศส)
รับแปลภาษาฝรั่งเศส (FRANÇAIS) , ฝรั่งเศส, แปลฝรั่งเศส, ภาษาฝรั่งเศส, แปลภาษาฝรั่งเศส, สถาบันแปลภาษาฝรั่งเศส, บริษัทแปลภาษาฝรั่งเศส, สำนักงานแปลภาษาฝรั่งเศส, หน่วยงานแปลภาษาฝรั่งเศส, ล่ามแปลภาษาฝรั่งเศส, อาจารย์แปลภาษาฝรั่งเศส, ร้านแปลภาษาฝรั่งเศส, ที่แปลภาษาฝรั่งเศส, คนแปลภาษาฝรั่งเศส, ที่แปลภาษาฝรั่งเศส, อยากแปลภาษาฝรั่งเศส, แปลภาษาฝรั่งเศส Pantip, สถานทูตแปลภาษา, เอเจนซี่แปลภาษาฝรั่งเศส, เอเจนท์แปลภาษาฝรั่งเศส, รับแปลภาษาฝรั่งเศส (FRANÇAIS) , กงสุลแปลภาษาฝรั่งเศส, กระทรวงต่างประเทศแปลภาษาฝรั่งเศส, ทนายแปลภาษาฝรั่งเศส, แนะนำที่แปลภาษาฝรั่งเศส, แปลภาษาฝรั่งเศสราคาถูก, แปลภาษาฝรั่งเศสด่วน, แปลภาษาฝรั่งเศสงานคุณภาพ, แปลภาษาฝรั่งเศสโดยเจ้าของภาษา, คลับแปลภาษาฝรั่งเศส, กลุ่มแปลภาษาฝรั่งเศส, รับรองภาษาฝรั่งเศส, แปลภาษาฝรั่งเศสใกล้ฉัน, แปลภาษาฝรั่งเศสที่ไหนดี, ช่วยแนะนำที่แปลภาษาฝรั่งเศส, รับแปลภาษาฝรั่งเศส, สถาบันรับแปลภาษาฝรั่งเศส, บริษัทรับแปลภาษาฝรั่งเศส, สำนักงานรับแปลภาษาฝรั่งเศส, หน่วยงานรับแปลภาษาฝรั่งเศส, ล่ามรับแปลภาษาฝรั่งเศส, อาจารย์รับแปลภาษาฝรั่งเศส, ร้านรับแปลภาษาฝรั่งเศส, ที่รับแปลภาษาฝรั่งเศส, คนรับแปลภาษาฝรั่งเศส, รับแปลภาษาฝรั่งเศส Pantip, สถานทูตรับแปลภาษาฝรั่งเศส, เอเจนซี่รับแปลภาษาฝรั่งเศส, เอเจนท์รับแปลภาษาฝรั่งเศส, รับแปลภาษาฝรั่งเศส (FRANÇAIS) , กงสุลรับแปลภาษาฝรั่งเศส, กระทรวงต่างประเทศรับแปลภาษาฝรั่งเศส, ทนายรับแปลภาษาฝรั่งเศส, แนะนำที่รับแปลภาษาฝรั่งเศส, รับแปลภาษาฝรั่งเศสราคาถูก, รับแปลภาษาฝรั่งเศสด่วน, รับแปลภาษาฝรั่งเศสงานคุณภาพ, รับแปลภาษาฝรั่งเศสโดยเจ้าของภาษา, คลับรับแปลภาษาฝรั่งเศส, กลุ่มรับแปลภาษาฝรั่งเศส, รับแปลภาษาฝรั่งเศสใกล้ฉัน, ช่วยแนะนำที่รับแปลภาษาฝรั่งเศส
สาธารณรัฐฝรั่งเศส République française (ฝรั่งเศส)
คำขวัญ: "Liberté, égalité, fraternité" "เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ"
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด : ปารีส 48°51′N 2°21′E
สัญชาติ (2018) : 93.0% พลเมืองฝรั่งเศส 7.0% ชาวต่างชาติ[2]
ศาสนา (2020) : 58.1% คริสต์ 31.9% ไม่มีศาสนา 8.3% อิสลาม 0.7% อื่น ๆ[3]
เดมะนิม : ชาวฝรั่งเศส
การปกครอง : รัฐเดี่ยว ระบบกึ่งประธานาธิบดี สาธารณรัฐรัฐธรรมนูญ • ประธานาธิบดี แอมานุแอล มาครง • นายกรัฐมนตรี เอลีซาแบ็ต บอร์น • ประธานวุฒิสภา เฌราร์ ลาร์เชอร์ • ประธานสมัชชาแห่งชาติ รีชาร์ แฟร์ร็อง สภานิติบัญญัติ รัฐสภา • สภาสูง วุฒิสภา • สภาล่าง สมัชชาแห่งชาติ
ก่อตั้ง • รัชสมัยของพระเจ้าโคลวิสที่ 1ในฐานะกษัตริย์ของชาวแฟรงก์ ค.ศ. 500 • สนธิสัญญาแวร์เดิง[II] สิงหาคม ค.ศ. 843 • ราชอาณาจักรฝรั่งเศส 3 กรกฎาคม ค.ศ. 987 • ก่อตั้งสาธารณรัฐ 22 กันยายน ค.ศ. 1792 • ก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจยุโรป[III] 1 มกราคม ค.ศ. 1958 • รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน[IV] 4 ตุลาคม ค.ศ. 1958 พื้นที่ • รวม 640,679 ตารางกิโลเมตร (247,368 ตารางไมล์)[4] (อันดับที่ 42) • แหล่งน้ำ (%) 0.86 (ใน ค.ศ. 2015)[5] • ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ (IGN) 551,695 km2 (213,011 sq mi)[V] (อันดับที่ 50) • ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ (Cadastre) 543,940.9 km2 (210,016.8 sq mi)[VI][6] (อันดับที่ 50) ประชากร • พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ประมาณ เพิ่มขึ้นเป็นกลาง 67,413,000 คน[7] (อันดับที่ 20) • ความหนาแน่น 104.7109/กม.2 (อันดับที่ 106) • ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ ประมาณ ข้อมูลเมื่อ May 2021 เพิ่มขึ้นเป็นกลาง 65,239,000[8] (อันดับที่ 23) • ความหนาแน่น 116 ต่อตารางกิโลเมตร (300.4 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 89) จีดีพี (อำนาจซื้อ) ค.ศ. 2021 (ประมาณ) • รวม เพิ่มขึ้น 3.232 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[9] (อันดับที่ 9) • ต่อหัว เพิ่มขึ้น 49,492 ดอลลาร์สหรัฐ[9] (อันดับที่ 25) จีดีพี (ราคาตลาด) ค.ศ. 2021 (ประมาณ) • รวม เพิ่มขึ้น 2.938 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[9] (อันดับที่ 7) • ต่อหัว เพิ่มขึ้น 44,995 ดอลลาร์สหรัฐ[9] (อันดับที่ 24) จีนี (ค.ศ. 2019) Negative increase 29.2[10] ต่ำ เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) เพิ่มขึ้น 0.901[11] สูงมาก · อันดับที่ 26
สกุลเงิน : ยูโร (€) (EUR)[VII] ฟรังก์ ซีเอฟพี (XPF)[VIII]
เขตเวลา : UTC+1 (เวลายุโรปกลาง) • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) UTC+2 (เวลาออมแสงยุโรปกลาง[X]) หมายเหตุ: มีเส้นเวลาหลายแห่งในดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส[IX] ถึงแม้ว่าประเทศฝรั่งเศสใช้เขตเวลายุโรปตะวันตก/UTC (Z) ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1940 ก่อนการยึดครองของเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สอง, เวลายุโรปกลาง/UTC+01:00 ถูกใช้เป็นเวลามาตรฐาน [2] ซึ่งปรับเพียง +0:50:39 (และ +1:50:39 ในช่วงเวลาออมแสง) จากเวลาเฉลี่ยท้องถิ่นปารีส (UTC+0:09:21).
รูปแบบวันที่ ; วว/ดด/ปปปป (ค.ศ.)
ไฟบ้าน : 230 โวลต์–50 เฮิร์ซ
ขับรถด้าน : ขวา
รหัสโทรศัพท์ : +33[XI]
โดเมนบนสุด : .fr[XII]
ข้อมูลหลายแหล่งให้ข้อมูลพื้นที่ของประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ที่ 551,500 ตารางกิโลเมตร และรายชื่อดินแดนโพ้นทะเลต่างกัน ซึ่งรวมกันแล้วมีพื้นที่ 89,179 ตารางกิโลเมตร เมื่อรวมแล้วจะได้พื้นที่สาฝธารณรัฐฝรั่งเศสทั้งหมด รายงานของซีไอเอบันทึกที่ 643,801 ตารางกืโลเมตร
ฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: France; ออกเสียง: [fʁɑ̃s] ( ฟังเสียง))[12] หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: République française) เป็นประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่น ๆ ในต่างทวีป ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัวตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวฝรั่งเศสมักเรียกแผ่นดินใหญ่ว่า หกเหลี่ยม (L'Hexagone) เนื่องจากรูปทรงทางกายภาพของประเทศ การปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี[13] มีประชากรราว 67 ล้านคน (ค.ศ. 2021)[14] แบ่งการปกครองออกเป็น 18 แคว้น[15] (รวมแคว้นโพ้นทะเล 5 แคว้น) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 643,801 ตารางกิโลเมตร มีเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือกรุงปารีสซึ่งถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของทวีปยุโรป[16] และยังมีเมืองสำคัญอื่น ๆ[17] เช่น ลียง มาร์แซย์ ตูลูส บอร์โด ลีล และ นิส ฝรั่งเศสมีพรมแดนติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี โมนาโก อันดอร์รา และสเปน และยังเชื่อมกับสหราชอาณาจักรทางอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ[18] และเนื่องจากการมีดินแดนโพ้นทะเลไว้ในครอบครอง ทำให้ฝรั่งเศสมีเขตเวลาแตกต่างกันมากถึง 12 เขต มากกว่าทุกประเทศบนโลก[19] รวมทั้งมีอาณาเขตติดกับประเทศบราซิล ซูรินาม (ติดกับเฟรนช์เกียนา) และซินต์มาร์เตินของเนเธอร์แลนด์ (ติดกับแซ็ง-มาร์แต็ง) ดินแดนของฝรั่งเศสเริ่มมีมนุษย์เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยยุคหินเก่า ชาวเคลต์ถือเป็นชาวยุโรปกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในยุคเหล็ก ก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะผนวกดินแดนแห่งนี้ในช่วง 51 ปีก่อนคริสตกาล และก่อให้เกิดวัฒนธรรมโรมันกอลซึ่งเป็นรากฐานของภาษาฝรั่งเศส ชาวแฟรงก์เดินทางมาถึงบริเวณนี้ใน ค.ศ. 476 และก่อตั้งราชอาณาจักรแฟรงก์ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิการอแล็งเฌียง ก่อนที่สนธิสัญญาแวร์เดิงจะแบ่งพื้นที่อาณาจักร และอาณาจักรแฟรงก์ตะวันตกได้กลายเป็นราชอาณาจักรฝรั่งเศสใน ค.ศ. 987[20] ฝรั่งเศสเป็นมหาอำนาจมาตั้งแต่สมัยกลาง และปกครองด้วยระบบฟิวดัล พระเจ้าฟีลิปที่ 2 เสริมสร้างอำนาจของราชวงศ์และยังขยายอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อสิ้นรัชสมัยของพระองค์ ราชอาณาจักรก็กลายเป็นรัฐที่มีอำนาจมากที่สุดในยุโรป[21] ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 14 ถึงกลางศตวรรษที่ 15 ฝรั่งเศสเผชิญความขัดแย้งทางราชวงศ์นำไปสู่สงครามร้อยปี ก่อนจะเข้าสู่สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาซึ่งตามมาด้วยความเจริญทางศิลปะและวัฒนธรรม ในช่วงเวลานั้น ฝรั่งเศสยังทำสงครามกับชาติต่าง ๆ และมีการล่าอาณานิคมทั่วโลก และในศตวรรษที่ 20 พวกเขาเป็นชาติที่มีอาณานิคมมากเป็นอันดับสองของโลก[22] ในศตวรรษที่ 16 สงครามศาสนาระหว่างชาวคาทอลิกและอูว์เกอโนทำให้ราชอาณาจักรอ่อนแอลง ก่อนจะกลับมาเป็นมหาอำนาจของยุโรปอีกครั้งในศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แต่หลังสิ้นสุดสงครามสามสิบปี ฝรั่งเศสต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย[23] และการทำสงครามอื่น ๆ (โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ในสงครามเจ็ดปีและการมีส่วนร่วมในสงครามปฏิวัติอเมริกา) ทำให้ราชอาณาจักรระส่ำระส่ายอย่างหนักจนสิ้นสุดศตวรรษที่ 18 นำไปสู่การปฏิวัติใน ค.ศ. 1789 ซึ่งเป็นการล้มล้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ การปฏิรูประบอบเก่า การประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และกลายสภาพเป็นสาธารณรัฐสมัยใหม่ชาติแรก ๆ ในประวัติศาสตร์ และสร้างปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและพลเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ ฝรั่งเศสยังเป็นมหาอำนาจอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ภายใต้จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงปราบปรามภูมิภาคอื่น ๆ ในยุโรปและสถาปนาจักรวรรดิที่หนึ่ง การล่มสลายของจักรวรรดินำไปสู่ช่วงเวลาแห่งความเสื่อมโทรมจนเกิดการก่อตั้งสาธารณรัฐที่ 3 ระหว่างสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซียใน ค.ศ. 1870 ทศวรรษต่อมาเป็นช่วงเวลาของความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู ที่เรียกว่ายุคสวยงาม (Belle Époque)[24] ฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญในสมัยระหว่างสงคราม โดยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และเป็นหนึ่งในมหาอำนาจฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็ถูกฝ่ายอักษะยึดครองใน ค.ศ. 1940[25] หลังจากการปลดแอกใน ค.ศ. 1944 สาธารณรัฐที่ 4 ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ และถูกยุบในช่วงสงครามแอลจีเรีย ก่อนที่สาธารณรัฐที่ 5 จะก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1958 โดย ชาร์ล เดอ โกล ประเทศแอลจีเรียและอาณานิคมของฝรั่งเศสส่วนใหญ่ได้รับอิสรภาพในทศวรรษที่ 1960 โดยยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับฝรั่งเศสมาถึงปัจจุบัน ฝรั่งเศสยังเป็นศูนย์กลางของโลกทาง ศิลปะ แฟชั่น วิทยาศาสตร์ และปรัชญามาหลายศตวรรษ[26][27] และเป็นประเทศที่มีแหล่งมรดกโลกมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก[28] รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก[29] (89 ล้านคนใน ค.ศ. 2018)[30] ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีระบบการศึกษา สาธารณสุข และระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพสูง[31] อีกทั้งยังติดอันดับในแง่ของคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร และมีดัชนีการพัฒนามนุษย์สูง ฝรั่งเศสมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกโดยวัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และอันดับ 9 หากวัดตามภาวะเสมอภาคของอำนาจซื้อ (พีพีพี) และมีความมั่งคั่งสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก ฝรั่งเศสยังเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิก รวมทั้งเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ เป็นสมาชิกประชาคมผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสโลก, กลุ่ม 7, เนโท และสหภาพลาติน และยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นมหาอำนาจที่มีอาวุธนิวเคลียร์
นิรุกติศาสตร์ : คำว่า ฝรั่งเศส (France) มาจากคำในภาษาละตินว่า Francia ซึ่งแปลตามตรงว่า ดินแดนของชาวแฟรงก์ (Frankland) และมีหลายทฤษฎีที่สันนิษฐานถึงที่มาของคำว่า แฟรงก์ (Franks) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคำในภาษาโปรโต-เยอรมันว่า Frankon ซึ่งแปลว่า หลาว หอก หรือทวนซึ่งเป็นอาวุธของพวกแฟรงก์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฟรานซิสกา (Francisca) อีกทฤษฎีหนึ่งตามหลักนิรุกติศาสตร์คือในภาษาเยอรมันโบราณ คำว่า แฟรงก์ แปลว่าอิสระ ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นทาส โดยคำดังกล่าวยังคงปรากฏในภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันในรูป ฟรังก์ (Franc) ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศฝรั่งเศสจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสกุลเงินยูโรในปี 2002 ในปัจจุบันประเทศเยอรมนียังเรียกประเทศฝรั่งเศสว่า Frankreich ซึ่งแปลว่า อาณาจักรของชาวแฟรงก์ อีกด้วย[33]
ภูมิศาสตร์ : ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปนั้นมีพื้นที่ 543,935 ตารางกิโลเมตร (210,013 ตารางไมล์) ทำให้ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งใหญ่กว่าประเทศสเปนเพียงเล็กน้อย[34] ประเทศฝรั่งเศสมีพื้นที่ครอบคลุมลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายมาก ตั้งแต่ที่ราบชายฝั่งในภาคเหนือและตะวันตก ซึ่งติดกับทะเลเหนือและมหาสมุทรแอตแลนติก ไปจนถึงเทือกเขาแอลป์ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่ราบสูงมาซิฟซ็องทราลทางภาคใต้ตอนกลางและเทือกเขาพิเรนีสทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศฝรั่งเศสยังมีจุดที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปตะวันตกคือ ยอดเขามงบล็อง (Mont Blanc) ซึ่งสูง 4,807 เมตร (15,770 ฟุต) ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ บริเวณชายแดนประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปยังมีแม่น้ำต่าง ๆ ที่สำคัญอีกมากมาย เช่น แม่น้ำลัวร์ แม่น้ำการอน แม่น้ำแซน และแม่น้ำโรนซึ่งแบ่งที่ราบสูงมาซิฟซ็องทราลออกจากเทือกเขาแอลป์อีกด้วย โดยไหลลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่กามาร์ก ซึ่งเป็นจุดที่ต่ำที่สุดในประเทศฝรั่งเศส (2 เมตร หรือ 6.5 ฟุต จากระดับน้ำทะเล) และยังมีกอร์ส (คอร์ซิกา) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พื้นที่ของประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งจังหวัดและดินแดนโพ้นทะเล (ไม่รวมดินแดนอาเดลี) คือ 674,843 ตารางกิโลเมตร (260,558 ตารางไมล์) นับเป็น 0.45% ของพื้นแผ่นดินโลกทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามประเทศฝรั่งเศสครอบครองพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะเป็นอันดับสองของโลก ด้วยเนื้อที่ 11,035,000 ตารางกิโลเมตร (4,260,000 ตารางไมล์) นับเป็น 8% ของพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะทั้งหมดในโลก ตามหลังสหรัฐอเมริกา ไปเพียง 316,000 ตารางกิโลเมตร และนำประเทศออสเตรเลียกว่า 2,886,750 ตารางกิโลเมตร ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปตั้งอยู่ระหว่าง 41° and 50° เหนือ บนขอบทวีปยุโรปตะวันตกและตั้งอยู่ในภูมิอากาศเขตอบอุ่นเหนือ ทางภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือมีสภาพภูมิอากาศเขตอบอุ่น แต่กระนั้นภูมิประเทศและทะเลก็มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศเหมือนกัน ละติจูด ลองจิจูดและความสูงเหนือระดับน้ำทะเลทำให้ประเทศฝรั่งเศสมีภูมิอากาศแบบคละอีกด้วย ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้มีสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน ภาคตะวันตกส่วนมากจะมีปริมาณน้ำฝนสูง ฤดูหนาวไม่มากและฤดูร้อนเย็นสบาย ภายในประเทศภูมิอากาศจะเปลี่ยนไปทางภาคพื้นทวีปยุโรป อากาศร้อน มีมรสุมในฤดูร้อน ฤดูหนาวหนาวกว่าเดิมและมีฝนตกน้อย ส่วนภูมิอากาศเทือกเขาแอลป์และแถบบริเวณเทือกเขาอื่น ๆ ส่วนมากมักจะมีภูมิอากาศแถบเทือกเขา ด้วยอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งกว่า 150 วันต่อปีและปกคลุมด้วยหิมะกว่า 6 เดือน ขณะที่ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรป (La Métropole หรือ France métropolitaine) ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ฝรั่งเศสก็ยังมีดินแดนที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ทะเลแคริบเบียน อเมริกาใต้ มหาสมุทรอินเดียทางตะวันตกและทางใต้ มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ รวมทั้งบางส่วนในทวีปแอนตาร์กติกาอีกด้วย (การอ้างสิทธิเหนือดินแดนในแอนตาร์กติกาไม่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ดู สนธิสัญญาแอนตาร์กติก)
สภาพภูมิอากาศ : ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) ช่วงเวลายอดนิยมของปีในการเยี่ยมชมเมืองหลวงของฝรั่งเศสฤดูใบไม้ผลิในปารีสเริ่มมีอากาศหนาวเย็นโดยมีอุณหภูมิสูงสุดทุกวันที่ประมาณ 54 ° F (12 ° C) ในเดือนมีนาคม ภายในเดือนพฤษภาคมอากาศจะอุ่นขึ้นถึง 68 ° F (20 ° C) ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) ช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยวในปารีสที่สูงขึ้นและมีอุณหภูมิสูงขึ้นด้วย คาดว่าจะมีอุณหภูมิสูงสุดทุกวันอย่างน้อย 83 ° F (25 ° C) พร้อมกับคืนที่รวดเร็วประมาณ 55 ° F (13 ° C) ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ธันวาคม) เนื่องจากชาวท้องถิ่นกลับมาจากช่วงวันหยุดฤดูร้อนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นจึงมีความคึกคักทั่วปารีสในฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิจะเย็นลงเล็กน้อยในช่วงต้นเดือนตุลาคม แต่ถ้าเก็บเสื้อแจ็คเก็ตฤดูใบไม้ร่วงเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นในย่านที่สวยงามและเดินเล่นริมแม่น้ำแซน เตรียมพร้อมสำหรับสายฝนที่เย็นจัดและมีลมแรงเป็นครั้งคราว อุณหภูมิสูงสุดรายวันอยู่ในช่วงใดก็ได้ตั้งแต่ 46 ° F (8 ° C) ถึง 62 ° F (17 ° C) ฤดูหนาว (มกราคม – กุมภาพันธ์) เรียกได้ว่าหนาวมากเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอากาศหนาว ที่สำคัญเป็นช่วงที่ตั๋วเครื่องบินและที่พักราคาถูกกว่าช่วงอื่น ๆ อาจต้องแบกกระเป๋าที่หนักไปด้วยเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาวต่าง ๆ แบบครบ เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ประมาณ 2 – 5 องศาเซลเซียส
ประวัติศาสตร์ : ชาวฝรั่งเศสสืบเชื้อสายมาจากพวกกอล (Gaul) ในศตวรรษที่ 1[35] จากนั้นตกมาอยู่ใต้การปกครองของพวกแฟรงก์ (ชื่อประเทศฝรั่งเศส หรือ France มาจากคำว่าแฟรงก์เช่นกัน) ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่มีบันทึกว่าเริ่มในศตวรรษที่ 5 เมื่อพระเจ้าชาร์เลอมาญตั้งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ใน ค.ศ. 843 ก็มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี ราชสำนักฝรั่งเศสขึ้นสู่จุดสูงสุดในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งในยุคนี้ฝรั่งเศสได้เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในยุโรป และมีอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจศิลปะ และ วัฒนธรรม ต่อยุโรปเป็นอย่างมาก ฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกษัตริย์จนถึงสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ใน ค.ศ. 1792 จึงเปลี่ยนมาใช้ระบอบสาธารณรัฐ หลังจากนั้นนโปเลียน โบนาปาร์ตได้ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิและรุกรานประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป เมื่อนโปเลียนพ่ายแพ้ ฝรั่งเศสจึงกลับมาใช้ระบบสาธารณรัฐอีกครั้ง เรียกว่ายุคสาธารณรัฐที่สอง แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหลุยส์ นโปเลียน หลานลุงของนโปเลียนได้ยึดประเทศและตั้งจักรวรรดิที่สองอีกครั้งตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง ทศวรรษที่ 60 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคม จักรวรรดิฝรั่งเศสมีพื้นที่ใหญ่มาก โดยช่วงที่ใหญ่ที่สุดคือช่วงยุคทศวรรษที่ 20 ถึง 30 ซึ่งมีกว่า 12,898,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นจักรวรรดิอันดับสองของโลก รองมาจากจักรวรรดิอังกฤษ[36] ฝรั่งเศสได้รับความบอบช้ำอย่างหนักจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง ปัจจุบันใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีทั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี (เรียกยุคสาธารณรัฐที่ห้า) ทศวรรษที่ผ่านมาฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นผู้นำของการรวมตัวตั้งประชาคมยุโรป ซึ่งพัฒนามาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบัน ฝรั่งเศสยังเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
การเมือง : สาธารณรัฐฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐเดี่ยวกึ่งประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 28 กันยายน 1958 โดยผ่านการลงประชามติ สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญนั้นคือการเพิ่มอำนาจให้ประธานาธิบดี
บริหาร : อำนาจฝ่ายบริหารนั้นถูกแบ่งออกและมีหัวหน้า 2 คน ซึ่งก็คือประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ผ่านการเลือกตั้งโดยตรงแบบสากล มีวาระ 5 ปี (เดิม 7 ปี) มีตำแหน่งประมุขแห่งรัฐอีกด้วย และนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรัฐบาล ซึ่งถูกแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ปัจจุบันฝรั่งเศสมีประธานาธิบดีคือ แอมานุแอล มาครง ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 14 พฤษภาคม 2017 และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือ ฌ็อง กัสแต็กซ์ ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 3 กรกฎาคม 2020
นิติบัญญัติ : รัฐสภาฝรั่งเศสนั้นแบ่งออกเป็น 2 สภาได้แก่ สภาผู้แทนราษฎร (Assemblée Nationale) และ วุฒิสภา (Sénat) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนในเขตเลือกตั้ง มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีวาระ 5 ปี สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีและเสียงข้างมากในสภาสามารถกำหนดการตัดสินใจของรัฐบาลอีกด้วย สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกของคณะผู้เลือกตั้ง มีวาระ 6 ปี (เดิม 9 ปี)
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ : ฝรั่งเศสเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของสหประชาชาติและยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ[37] และยังถือเป็นประเทศที่มีเครือข่ายสมาชิกองค์การระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีสมาชิกในสถาบันระหว่างประเทศมากกว่าประเทศอื่น ได้แก่ กลุ่ม 7 องค์การการค้าโลก[38] สำนักเลขาธิการของชุมชนแปซิฟิก (SPC) และคณะกรรมาธิการมหาสมุทรอินเดีย (COI)[39] และยังเป็นสมาชิกสมทบของ สมาคมรัฐแคริบเบียน (ACS)[40] และเป็นสมาชิกหลักของ องค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (OIF) ร่วมกับอีก 84 ประเทศที่พูดภาษาฝรั่งเศส[41] ในฐานะศูนย์กลางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สำคัญ ฝรั่งเศสมีคณะทูตที่ใหญ่เป็นอันดับสามในโลกรองจากจีนและสหรัฐอเมริกาซึ่งมีประชากรมากกว่าพวกเขามาก นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าภาพสำนักงานใหญ่ขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง เช่น องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ, ยูเนสโก, องค์การตำรวจอาชฐากรรมระหว่างประเทศ, สำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศ และ OIF นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ฝรั่งเศสได้พัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเยอรมนีเพื่อร่วมกันเป็นพลังขับเคลื่อนที่ทรงอิทธิพลที่สุดของสหภาพยุโรป ในทศวรรษที่ 1960 ฝรั่งเศสพยายามกีดกันอังกฤษออกจากกระบวนการรวมชาติของยุโรป โดยพยายามสร้างจุดยืนของตนเองในยุโรปภาคพื้นทวีป อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 1904 ฝรั่งเศสได้รักษา "สัมพันธภาพที่ดีอย่างจริงจัง" กับสหราชอาณาจักร และมีปฏิสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการทหาร ฝรั่งเศสเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (เนโท) แต่ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีเดอโกล เขาทำการกีดกันตนเองจากการบัญชาการร่วมทางทหารกับเพื่อนสมาชิก และเพื่อรักษาเอกราชและความมั่นคงของฝรั่งเศส แต่ภายใต้การนำของนิโคลัส ซาร์โกซี ฝรั่งเศสกลับเข้าร่วมกองบัญชาการทหารร่วมของเนโทอีกครั้งในวันที่ 4 เมษายน 2009 ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ประเทศได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากการทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดินในเฟรนช์พอลินีเซีย[42] และฝรั่งเศสเป็นแกนนำในการต่อต้านการรุกรานอิรักโดยสหรัฐอเมริกาในปี 2003 อย่างรุนแรง[43][44] ฝรั่งเศสยังคงมีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในกลุ่มประเทศอาณานิคมทวีปแอฟริกา (Françafrique)[45] และได้ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและกองกำลังสำหรับภารกิจรักษาสันติภาพในไอวอรี่โคสต์และชาด ในปี 2017 ฝรั่งเศสเป็นประเทศผู้บริจาคเงินช่วยเหลือด้านการพัฒนารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก[46] รองจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ซึ่งคิดเป็น 0.43% ของ GNP ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 12 ในกลุ่มประเทศ OECD ความช่วยเหลือจัดทำโดยหน่วยงานพัฒนาฝรั่งเศสของรัฐบาลซึ่งให้เงินสนับสนุนโครงการด้านมนุษยธรรมในอนุภูมิภาคทะเลทรายสะฮารา โดยเน้นที่ "การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเข้าถึงการดูแลสุขภาพ และการศึกษา การดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจที่เหมาะสม และการรวมกลุ่มของหลักนิติธรรมและประชาธิปไตย" และยังคงดำเนินนโยบายดังกล่าวอย่างแข็งขันถึงปัจจุบัน
ความสัมพันธ์กับประเทศไทย : ไทยและฝรั่งเศสเริ่มมีความสัมพันธ์ระหว่างกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช[47] และพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งได้ส่งราชทูตมาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยามประเทศใน พ.ศ. 2228 ต่อมาราชทูตสยาม (โกษาปาน) ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ซายส์ เมื่อ พ.ศ. 2229[48] ต่อมาในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับฝรั่งเศสได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการลงนามในสนธิสัญญาทางไมตรี การค้า และการเดินเรือ (Treaty of Friendship, Commerce and Navigation) เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2399[49] ปัจจุบัน รัฐบาลไทยได้แต่งตั้งนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส[50] ส่วนฝรั่งเศสได้แต่งตั้งให้ นายตีแยรี มาตู (Thierry Mathou) เป็นเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย (เข้ารับตำแหน่งเมื่อ เดือนพฤศจิกายน 2563-ปัจจุบัน) นอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการก่อตั้งสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองลียง และเมืองมาร์แซย์[51] ส่วนทางประเทศฝรั่งเศสก็ได้เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ จังหวัดเชียงใหม่[52] ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) และ เชียงราย
กองทัพ : กองทัพฝรั่งเศส (Forces armées françaises) เป็นกองกำลังทหารและกึ่งทหารของฝรั่งเศสภายใต้การสั่งการจากประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด ประกอบด้วย กองทัพบกฝรั่งเศส (Armée de Terre) กองทัพเรือฝรั่งเศส (Marine Nationale เดิมชื่อ Armée de Mer) กองทัพอากาศและอวกาศของฝรั่งเศส (Armée de l'Air et de l'Espace)[53] และกองกำลังตำรวจพิเศษ (Gendarmerie nationale) ซึ่งทำหน้าที่ตำรวจพลเรือนในพื้นที่ชนบทของฝรั่งเศสด้วย[54] พวกเขาเป็นหนึ่งในกองกำลังติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลกและใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป จากการศึกษาของ Crédit Suisse ในปี 2018 กองทัพฝรั่งเศสได้รับการจัดอันดับให้เป็นกองทัพที่ทรงอิทธิพลที่สุดอันดับที่ 6 ของโลก และทรงอิทธิพลที่สุดในยุโรป รองจากรัสเซียเท่านั้น[55] นอกจากนี้ ในสถานการณ์พิเศษ กองทหารรักษาการณ์จะรวมตัวกับหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของกองทหารรักษาการณ์แห่งชาติ (Escadron Parachutiste d'Intervention de la Gendarmerie Nationale), กลุ่มการแทรกแซงระดับชาติ (Groupe d'Intervention de la Gendarmerie Nationale) และยังมี National Gendarmerie รับผิดชอบในการไต่สวนคดีอาญา รวมถึงหน่วยงานสำคัญซึ่งได้แก่ Mobile Brigades of the National Gendarmerie ซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฝรั่งเศสมีกองทหารพิเศษ คือ French Foreign Legion[56] ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1830 ซึ่งประกอบด้วยชาวต่างชาติจากกว่า 140 ประเทศที่ยินดีรับใช้ในกองทัพฝรั่งเศสและกลายเป็นพลเมืองฝรั่งเศส [57]มีเพียงสองประเทศในยุโรปเท่านั้น ที่มีกองทหารพิเศษจากอาสาสมัครต่างชาติเช่นนี้ได้แก่ สเปน (กองทหารต่างประเทศสเปนเรียกว่า Tercio ก่อตั้งขึ้นในปี 1920) และลักเซมเบิร์ก (ชาวต่างชาติสามารถรับใช้ในกองทัพแห่งชาติได้หากพวกเขาพูดภาษาลักเซมเบิร์กได้)
การแบ่งเขตการปกครอง : ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ (Metropolitan France - "France métropolitaine, la Métropole, l'Hexagone") แบ่งการปกครองออกเป็น 13 แคว้น (regions - régions)[58] โดยในแต่ละแคว้นแบ่งออกเป็น จังหวัด (départements) รวมทั้งหมด 96 จังหวัด นอกจากในทวีปยุโรปแล้ว ประเทศฝรั่งเศสยังมีเขตการปกครองโพ้นทะเล (Overseas) อยู่ในทวีปต่าง ๆ ทั้งอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกา แอนตาร์กติกา และภูมิภาคโอเชียเนียอีก ได้แก่ 5 จังหวัดโพ้นทะเล (Départements d'outre-mers: DOM) ได้แก่ กัวเดอลุป (Guadeloupe) เฟรนช์เกียนา (French Guiana) มาร์ตีนิก (Martinique) เรอูว์นียง (Réunion) และมายอต (Mayotte) ทั้งห้าดินแดนมีฐานะเดียวกับแคว้นในฝรั่งเศสภาคพื้นทวีป (อย่างเดียวกับฮาวายที่มีฐานะเท่าเทียมกับรัฐอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา) กล่าวคือ เป็นทั้งแคว้นและจังหวัดในเวลาเดียวกัน 4 เขตชุมชนโพ้นทะเล (Collectivités d'outre-mer) ได้แก่ แซงปีแยร์และมีเกอลง (Saint Pierre and Miquelon) วอลิสและฟูตูนา (Wallis and Futuna) แซ็ง-บาร์เตเลมี (Saint Barthélemy) และแซ็ง-มาร์แต็ง (Saint Martin) 1 ประเทศโพ้นทะเล (Pays d'outre-mer: POM) ดินแดนแห่งเดียวของฝรั่งเศสที่ได้รับการเรียกชื่อนี้คือ เฟรนช์โปลินีเซีย (French Polynesia) ซึ่งเคยเป็นดินแดนโพ้นทะเล (TOM) มาก่อน แต่ได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะในวันที่ 28 มีนาคม 2003 โดยแบ่งออกเป็น 5 เขตบริหารย่อย 1 เขตชุมชนรูปแบบพิเศษ (Collectivité sui generis) คือ นิวแคลิโดเนีย (New Caledonia) เคยมีฐานะเป็นดินแดนโพ้นทะเลมาจนถึงปี 1999 จึงได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะ แบ่งออกเป็น 3 จังหวัด (provinces) ได้แก่ จังหวัดนอร์ ซูด และอีลลัวโยเต 1 ดินแดนโพ้นทะเล (Territoires d'outre-mer: TOM) คือ เฟรนช์เซาเทิร์นและแอนตาร์กติกแลนส์ (French Southern and Antarctic Lands) โดยแบ่งออกเป็น 4 เขต (districts) ได้แก่ หมู่เกาะแกร์เกแลน (Kerguelen Islands) หมู่เกาะครอเซ (Crozet Islands) เกาะอัมสเตอร์ดัมและเกาะแซ็ง-ปอล (Amsterdam Island and Saint Paul Island) และอาเดลีแลนด์ (Adelie Land) ดินแดน 5 เกาะในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งไม่มีผู้อาศัยอยู่อย่างถาวร รู้จักกันในชื่อ หมู่เกาะกระจายหรืออีลเซปาร์ส (Îles Éparses) ได้แก่ บาซัสดาอินเดีย (Bassas da India) ยูโรปา (Europa) ฌุอ็องเดอนอวา (Juan de Nova) โกลรีโอโซ (Glorioso) และตรอมแล็ง (Tromelin) ทั้งหมดถูกปกครองโดยจังหวัดโพ้นทะเลเรอูว์นียง เกาะที่ไม่มีผู้อาศัย 1 แห่ง คือ เกาะกลีแปร์ตอน (Clipperton) อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ใกล้ชายฝั่งประเทศเม็กซิโก ปกครองโดยข้าหลวงใหญ่สาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำท้องถิ่นโพ้นทะเลเฟรนช์โปลินีเซีย
เศรษฐกิจ : เมื่อวัดจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ประเทศฝรั่งเศสนับเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 10 ของโลกในปี 2008 และอันดับสองของยุโรปเมื่อวัดตามภาวะเสมอภาคของอำนาจซื้อ[59] ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งใน 11 สมาชิกร่วมก่อตั้งสหภาพยุโรปและเริ่มใช้เงินสกุลยูโรเมื่อปี 1999 และเริ่มใช้เหรียญและธนบัตรแทนสกุลฟรังก์ในอีกสามปีต่อมา[60] ขณะที่มีบริษัทเอกชนในฝรั่งเศสมีจำนวนมาก[61] รัฐบาลก็มีการตั้งรัฐวิสาหกิจและแทรกแซงเอกชนในบางครั้ง ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในระบบรถไฟ ไฟฟ้า อากาศยาน พลังงานนิวเคลียร์และโทรคมนาคม[62] จึงนับได้ว่าฝรั่งเศสมีลักษณะเศรษฐกิจแบบผสม แม้ภาครัฐจะพยายามลดการแทรกแซงและมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นเอกชนอยู่เรื่อยมา องค์การการค้าโลกเผยว่าฝรั่งเศสเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 6 และเป็นผู้นำเข้าอันดับ 4 ของโลกในปี 2009[63] ประเภทของอุตสาหกรรมที่เป็นที่มาของความสำเร็จในการส่งออก[64] ได้แก่ อุตสาหกรรมทางด้านการขนส่ง โทรคมนาคม อุตสาหกรรมอาหาร ผลิตภัณฑ์ยา การท่องเที่ยว และสินค้าฟุ่มเฟือย (เครื่องหนัง เสื้อผ้าสำเร็จรูป น้ำหอมและเหล้า) รวมไปถึงภาคการเงิน ภาคธนาคาร และการประกันภัย สถาบันการเงินรายใหญ่ตั้งอยู่ในฝรั่งเศสรวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ปารีส (ปัจจุบันคือยูโรเน็กซต์ ปารีส) บริษัทประกันแอกซ่า ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ และธนาคารโซซิเอเต้ เจเนเรล[65] ในด้านการลงทุน ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีการลงทุนจากต่างประเทศเป็นอันดับ 3 ของโลกเมื่อปี 2008 รองจากลักเซมเบิร์กและสหรัฐอเมริกา[66] มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 118 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะผู้ลงทุนพอใจในคุณภาพของแรงงานชาวฝรั่งเศส การค้นคว้าวิจัยขั้นสูง เทคโนโลยีชั้นสูงที่ก้าวหน้ามาก เสถียรภาพของค่าเงิน และการควบคุมต้นทุนการผลิต และในปีเดียวกันนั้น บริษัทฝรั่งเศสไปลงทุนในต่างประเทศสูงถึง 220 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[67] ในปี 2004 ประเทศฝรั่งเศสเสียเปรียบดุลการค้าถึง 6.6 พันล้านยูโร ถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกทางด้านสินค้าทุน (ส่วนมากจะเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์) และเป็นอันดับ 2 ในส่วนของภาคบริการและทางด้านเกษตรกรรม (โดยเฉพาะธัญพืชและอุตสาหกรรมอาหาร) ส่วนในระดับภูมิภาคยุโรป ประเทศฝรั่งเศสนับเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าการเกษตรรายใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ สัดส่วนการค้าระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปคิดเป็นร้อยละ 70 (ร้อยละ 50 เฉพาะประเทศในยูโรโซน) ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (PPP) ปี 2019 มีมูลค่า 3,062 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[68] อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ปี 2019 คิดเป็นร้อยละ 1.3[68] รายได้เฉลี่ยต่อหัว 47,223 ดอลลาร์สหรัฐ (2019) อัตราเงินเฟ้อคิดเป็นร้อยละ 1.3 (2019) ดุลการค้าขาดดุลมีมูลค่า 6.6 พันล้านยูโร (2004) ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองลงมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา (59 เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ใน 19 โรงงานปรมาณูทั่วประเทศ) การผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศ 88% มาจากพลังงานนิวเคลียร์ ค่าไฟฟ้าในประเทศราคาถูกกว่าประเทศใกล้เคียง จึงมีการส่งออกกระแสไฟฟ้าไปยังประเทศอื่น
เกษตรกรรม : เศรษฐกิจของฝรั่งเศสขึ้นอยู่กับภาคการเกษตรอย่างมากมาตั้งแต่สมัยอดีต[70] มีการใช้ปุ๋ยปรับสภาพดินและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ นโยบายเกษตรร่วมของสหภาพยุโรปยังช่วยให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรมากที่สุดในยุโรป[71] คิดเป็นราวร้อยละ 20 ของสินค้าเกษตรในสหภาพยุโรป[72] และคิดเป็นอันดับสามของโลก[73] อาหารแปรรูปที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสได้แก่ ข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อโค เนื้อสุกร ตลอดจนไวน์โรเซ่ แชมเปญจน์ และไวน์บอร์โด ฝรั่งเศสมีจำนวนพื้นที่ถือครองเพื่อการเกษตรกว่า 590,000 แห่ง มีประชากรในวัยทำงานในภาคการเกษตร 1,189,000 คน และมีพื้นที่เพาะปลูก 27,668,000 เฮกตาร์หรือเท่ากับร้อยละ 50.7 ของประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ โดยมีผลิตผลทางการเกษตรหลักดังนี้ ธัญพืช 69.7 ล้านตัน ในจำนวนนี้ 37.6 ล้านตันเป็นข้าวสาลีและ 16.4 ล้านตันเป็นเมล็ดข้าวโพด ประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปและเป็นอันดับ 5 ของโลก ไวน์ 48 ล้านเฮกโตลิตร อันดับ 2 ของโลกและในสหภาพยุโรปรองจากประเทศอิตาลี นม 22.2 ล้านลิตร อันดับ 2 ของสหภาพยุโรปรองจากประเทศเยอรมนีและเป็นอันดับ 5 ของโลก หัวผักกาดหวาน 29.4 ล้านตัน ผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของสหภาพยุโรปและอันดับ 2 ของโลก เมล็ดพืชที่ให้น้ำมัน 6 ล้านตัน ผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของสหภาพยุโรป ส่วนด้านการทำปศุสัตว์และการผลิตเนื้อสัตว์นั้น มีดังนี้ โค จำนวน 19.2 ล้านตัว / เนื้อโค ปริมาณผลิต 1.8 ล้านตัน สุกร จำนวน 15.2 ล้านตัว / เนื้อสุกร ปริมาณผลิต 2.3 ล้านตัน แกะ จำนวน 8.9 ล้านตัว, แพะ จำนวน 1.2 ล้านตัว / เนื้อแพะและแกะ ปริมาณผลิต 1.3 ล้านตัน เนื้อสัตว์ปีก ปริมาณผลิต 2.1 ล้านตัน ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ภายกลุ่มประชาคมยุโรปกว่าร้อยละ 58.6 ของการค้าทั้งหมดของประเทศฝรั่งเศสคือ ประเทศเยอรมนี เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก สหราชอาณาจักร สเปนและอิตาลี ที่เหลือได้แก่ สหรัฐอเมริกา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และแอลจีเรีย
พลังงาน : Électricité de France (EDF) บริษัทผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าหลักในฝรั่งเศส ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย ในปี 2018 ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 20% ของสหภาพยุโรป[74] ส่วนใหญ่มาจากพลังงานนิวเคลียร์ ฝรั่งเศสเป็นประเทศปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เล็กที่สุดในบรรดาสมาชิกกลุ่ม 7 เนื่องจากมีการลงทุนอย่างหนักในด้านพลังงานนิวเคลียร์ ณ ปี 2016 ไฟฟ้า 72% ของประเทศผลิตขึ้นโดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 58 โรง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในโลก ฝรั่งเศสยังใช้เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น เขื่อน Eguzon, Étang de Soulcem และ Lac de Vouglans
การค้าต่างประเทศ : ในอดีตประเทศฝรั่งเศสขาดดุลการค้ามาโดยตลอดจนถึงปี 1982 ซึ่งได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ เช่น การไม่รวมอัตรารายได้กับดัชนีเงินเฟ้อ และการปรับความสามารถในการแข่งขันส่งผลให้สภาวะการค้าของประเทศฝรั่งเศสดีขึ้น และตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา ประเทศฝรั่งเศสก็ได้เปรียบดุลการค้าติดต่อกันเรื่อยมา โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ฝรั่งเศสได้เปรียบดุลการค้า คือ ราคาพลังงานที่ฝรั่งเศสต้องนำเข้าได้ลดลง ประเทศฝรั่งเศสทำการค้ากับสหภาพยุโรปเป็นสำคัญโดยร้อยละ 60 ของการส่งออกของฝรั่งเศสส่งไปยังตลาดสหภาพยุโรป ซึ่งเดิมถือว่าเป็นจุดอ่อนของประเทศฝรั่งเศส แต่สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้กลายเป็นข้อได้เปรียบ และการส่งออกสินค้ามูลค่าสูงเช่น เครื่องบินแอร์บัส และอุปกรณ์การบิน ดาวเทียม อุปกรณ์ด้านการทหาร และรถไฟความเร็วสูง (TGV) ได้ขยายตัวอย่างมากโดยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 ของการส่งออกของประเทศฝรั่งเศสทั้งหมด แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต คาดว่าประเทศฝรั่งเศสจะได้เปรียบดุลการค้าลดลง เนื่องจากการถดถอยของอุปสงค์โลก ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจเอเชีย ในปี 1998 และการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ภายหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกาและสงครามในอิรัก
การท่องเที่ยว : จำนวน 81.9 ล้านคนนี้ ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศสน้อยกว่า 24 ชั่วโมง เช่น ชาวยุโรปทางตอนเหนือที่เดินทางผ่านประเทศฝรั่งเศสเพื่อไปประเทศสเปนหรืออิตาลีในฤดูร้อน ประเทศฝรั่งเศสมีสถานที่ท่องเที่ยวในทุก ๆ บรรยากาศไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมหรือธรรมชาติ ที่ประกอบไปด้วยทะเล หาดทราย ป่า แม่น้ำ ภูเขา บ้านพักตากอากาศ ฯลฯ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดมีดังนี้[76] หอไอเฟล (6.2 ล้าน), พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (5.7 ล้าน), พระราชวังแวร์ซายส์ (2.8 ล้าน), พิพิธภัณฑ์ออร์เซ (2.1 ล้าน), ประตูชัยฝรั่งเศส (1.2 ล้าน), ซองตร์ ปอมปิดู (1.2 ล้าน), มง-แซ็ง-มีแชล (1 ล้าน), พระราชวังช็องบอร์ (711,000), วิหารแซ็งต์-ชาแปล (683,000 , ชาโต ดู โอต์-โคนิคบูร์ก (549,000), ปุย เดอ โดม (5 แสน), พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ (441,000) และการ์กาซอน (362,000) ประเทศฝรั่งเศสมีโรงแรมกว่า 18,217 แห่ง สถานที่ตั้งแคมป์ 8,289 แห่ง หมู่บ้านตากอากาศ 1,001 แห่ง บ้านพักเยาวชน 188 แห่ง ที่พักราคาย่อมเยาในต่างจังหวัด 63,158 แห่ง ห้องพักพร้อมอาหารเช้าตามบ้านคนท้องถิ่น 31,013 ห้อง โดยประเทศฝรั่งเศสมีรายได้จากการท่องเที่ยว 32.8 พันล้านยูโร นับเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและอิตาลี และมีดุลการท่องเที่ยวเกินดุลกว่า 9.8 พันล้านยูโร
โครงสร้างพื้นฐาน
คมนาคม และ โทรคมนาคม
คมนาคม : เครือข่ายระบบรางของฝรั่งเศสมีความยาวรวมถึง 29,473 กิโลเมตรในปี 2008[77] สูงสุดเป็นอันดับสองในยุโรปตะวันตกรองจากเยอรมนี[78] ดำเนินการโดยแอ็สแอนเซแอ็ฟ และมีรถไฟความเร็วสูงตาลิส ยูโรสตาร์ เตเฌเวให้บริการในประเทศและเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านรอบด้านยกเว้นประเทศอันดอร์รา ในเมืองใหญ่มีระบบรถไฟใต้ดินให้บริการ อาทิ ปารีส ลียง มาร์แซย์ ตูลูซ และแรน ทั้งยังมีระบบรถรางให้บริการใน น็องต์ สทราซบูร์ บอร์โด เกรอนอบล์ และมงเปอลีเย ส่วนถนนในฝรั่งเศสมีความยาวรวมกันถึง 1,027,183 กิโลเมตรนับว่ายาวที่สุดในทวีปยุโรป[79] โดยปารีสมีเครือข่ายถนนและทางพิเศษที่หนาแน่นสูงกว่าส่วนอื่นของประเทศ เส้นทางถนนเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านรอบด้าน ฝรั่งเศสไม่เก็บภาษีถนนประจำปีแต่จะเก็บค่าบริการในทางด่วนพิเศษหลายเส้นทาง มีตลาดรถยนต์ที่ใหญ่โดยรถยนต์ส่วนใหญ่ผลิตจากผู้ผลิตในประเทศอาทิ เรโนลต์ เปอโยต์ และซิตรอน[80] ฝรั่งเศสมีท่าอากาศยานมากถึง 464 แห่งในประเทศ[68] ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกลเป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่และมีผู้ใช้บริการมากที่สุดในประเทศ เชื่อมต่อปารีสกับเมืองสำคัญทั่วโลก มีสายการบินแอร์ฟรานซ์เป็นสายการบินประจำชาติ สำหรับการคมนาคมทางน้ำนั้น มีท่าเรือใหญ่ 10 แห่งด้วยกัน ท่าที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่มาร์แซย์[81] เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางทะเลเมดิเตอเรเนียน ฝรั่งเศสมีระบบคลองยาวราว 12,261 กิโลเมตร
วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี : ฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญต่อความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาตั้งแต่ยุคกลาง นับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 สมเด็จพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่ 2 ผู้ประสูติในฝรั่งเศสทรงเผยแพร่ลูกคิด ทรงกลมดาราศาสตร์ ระบบเลขอารบิก และนาฬิกาให้กับชาวยุโรปเหนือและตะวันตกได้รู้จักกันอีกครั้ง[82] กลางคริสต์ศตวรรษที่ 12 มหาวิทยาลัยปารีสก่อตั้งขึ้นและกลายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกตะวันตกนับตั้งแต่นั้น[83] ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรอเน เดการ์ต ได้เผยแพร่หลักการค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แบลซ ปัสกาล ร่วมพัฒนาทฤษฎีความน่าจะเป็นและกลศาสตร์ของไหล นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองกลายเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ นำมาซึ่งยุคแห่งภูมิปัญญาของยุโรปนับตั้งแต่นั้น พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงตั้งสมาคมวิทยาศาสตร์ขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในฝรั่งเศสรวมทั้งปกป้องจิตวิญญาณของการวิจัย มีส่วนสำคัญในการบุกเบิกทางวิทยาศาสตร์ของยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ในยุคเรืองปัญญา มีนักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสที่ได้รับการยอมรับมากมาย อาทิ บุฟฟ่อน นักชีววิทยา อ็องตวน ลาวัวซีเย นักเคมีผู้ค้นพบหน้าที่ของออกซิเจนในการเผาไหม้ ตลอดจนดีเดอโรต์และดาลองแบร์ผู้เผยแพร่สารานุกรม หวังให้ประชาชนเข้าถึงความรู้ที่เป็นประโยชน์ ใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้[84] นอกจากนี้ ในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมยังมีออกุสแต็ง-ฌ็อง แฟรแนลเป็นผู้คิดค้นเลนส์ยุคใหม่ นีกอลา เลออนาร์ ซาดี การ์โนคิดค้นทฤษฎีเครื่องจักรความร้อน หลุยส์ ปาสเตอร์คิดค้นวิธีการฆ่าเชื้อและวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า โดยชื่อของนักวิทยาศาสตร์ของศตวรรษที่ 19 ที่มีชื่อเสียงจะได้รับการจารึกบนหอไอเฟล สำหรับนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้แก่ อ็องรี ปวงกาเร นักคณิตศาสตร์ อ็องตวน อ็องรี แบ็กแรล ปีแยร์ กูว์รี และมารี กูว์รี นักฟิสิกส์และเคมีผู้ค้นพบรังสีเรเดียม โปล แลงชเวน นักฟิสิกส์ และลุค มงตาญนิเยร์ นักชีววิทยาผู้ร่วมค้นพบเชื้อไวรัสเอดส์ ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในสี่ประเทศมหาอำนาจทางนิวเคลียร์[85] มีอาวุธนิวเคลียร์ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก[86] และเป็นผู้นำด้านการใช้นิวเคลียร์เพื่อกิจการพลเรือน[87][88][89]ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่สามต่อจาก สหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาที่มีดาวเทียมในอวกาศและยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันโครงการอวกาศของยุโรป[90][91][92] บริษัทแอร์บัสมีส่วนในการพัฒนาระบบอากาศยานสำหรับการทหารและพลเรือน และรัฐบาลฝรั่งเศสยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการวิจัยแสงซิงโครตรอนและองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป เมื่อนับจนถึงปี 2018 ฝรั่งเศสมีผู้ได้รับรางวัลโนเบลมาแล้วรวม 69 คน
การศึกษา : หลักเกณฑ์ของระบบการศึกษาฝรั่งเศส ประกอบด้วยหลัก 4 ประการ ได้แก่[93]
1. ความเท่าเทียมกันทางโอกาสในการเข้ารับการศึกษา
2. การไม่แบ่งแยกเพศ เชื้อชาติ ผิวพรรณ และฐานะทางสังคม
3. ความมีสถานะเป็นกลาง
4. ความไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาใด ๆ
นโยบายทางการศึกษา : ระบบการศึกษาของรัฐเป็นบริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย เว้นแต่ค่าลงทะเบียนเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากนัก การศึกษาภาคบังคับในฝรั่งเศส อยู่ในช่วงอายุระหว่างอายุ 6-16 ปี ระบบการศึกษาของรัฐรับเด็กเข้าศึกษา 80% ของจำนวนเด็กทั้งหมด ข้อบ่งชี้ถึงความมีเสรีภาพในการเรียนการสอน ประการหนึ่ง คือการเปิดโรงเรียน หรือสถานศึกษาซึ่งเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นเสรี ใครก็ตามสามารถเปิดโรงเรียน หรือสถานศึกษาซึ่งเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นเสรี ใครก็ตามสามารถเปิดหรือจัดการศึกษาได้ทั้งสิ้นและทุกระดับชั้นการศึกษาไม่ว่าจะเป็นระดับระถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา หรือแม้แต่ระดับอุดมศึกษา แต่ทั้งนี้จะต้องรักษา หลักเกณฑ์ 4 ประการ ดังกล่าวข้างต้นและรักษาเงื่อนไขทางด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยและการจัดระเบียบสาธารณะ อดีตนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส ฟร็องซัว ฟียง (Mr. Francois Filllon) ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาแห่งชาติเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2007 ในส่วนที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษาว่า จะเพิ่มโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้แก่ประชาชนฝรั่งเศส โดยตั้งเป้าหมายให้ประชาชนร้อยละ 50 จบการศึกษา พร้อมทั้งตั้งงบประมาณระหว่างปี 2007-12 เพื่อการนี้จำนวน 5 พันล้านยูโร และจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยให้แก่สถาบันอุดมศึกษา คาดว่างบประมาณเพื่อการวิจัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
สาธารณสุข : ฝรั่งเศสมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าโดยรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ องค์การอนามัยโลกเผยว่าฝรั่งเศสมีระบบสาธารณสุขที่ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในปี 2000[95] ฝรั่งเศสใช้งบประมาณสูงถึง 11.6 ของจีดีพีกับระบบสาธารณสุขในปี 2011 หรือราว ๆ 4,086 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว[96] สูงกว่าค่าเฉลี่ยชาติอื่น ๆ ของยุโรปมาก ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพประมาณร้อยละ 77 อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐบาล[97] โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่นโรคมะเร็ง โรคเอดส์ หรือโรคซิสติก ไฟโบรซิส ได้รับการรักษาฟรี อายุขัยโดยเฉลี่ยของประชาชนอยู่ที่ 78 ปีสำหรับเพศชาย และ 85 ปีสำหรับเพศหญิง นับว่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของยุโรปและของโลก[98][99] มีแพทย์ราว 3.22 คนต่อประชากร 1,000 คนในปี 2008[100] แม้คนทั่วไปจะมองว่าชาวฝรั่งเศสมีรูปร่างที่ผอม แต่ฝรั่งเศสกำลังประสบปัญหาประชากรมีโรคอ้วนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนไปสู่ค่านิยมการบริโภคอาหารขยะ[101] อัตราการเกิดโรคอ้วนยังถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาและยังต่ำสุดในยุโรป แต่เป็นประเด็นที่ภาครัฐให้ความสำคัญเมื่อเร็ว ๆ นี้[102]
เชื้อชาติ : ประชากรของประเทศฝรั่งเศสนั้นมีประมาณ 67.15 ล้านคน (2017) โดยเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก[103] หรืออันดับที่ 2 ของสหภาพยุโรป ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชาวเคลต์ผสมกับเชื้อสายโรมันและแฟรงก์[104] แต่ละท้องที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป เช่น วัฒนธรรมบริตันทางตะวันตก วัฒนธรรมอากิแตเนียทางตะวันตกเฉียงใต้แถบเทือกเขาพีเรเนส วัฒนธรรมอลามันน์ทางตะวันออกเฉียงเหนือใกล้พรมแดนเยอรมนี วัฒนธรรมสแกนดิเนเวียทางตะวันออกเฉียงเหนือ และวัฒนธรรมลิกูเรียทางตะวันออกเฉียงใต้[105][106] คริสต์ศตวรรษที่ 20 มีการย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างสังคมของฝรั่งเศส ประมาณการกันว่าในเขตเมืองใหญ่ของฝรั่งเศสนั้นมีชาวผิวขาวร้อยละ 85 ชาวแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือร้อยละ 10 ชาวผิวดำร้อยละ 3.3 และชาวเอเชียอีกร้อยละ 1.7 ประชาชนชาวฝรั่งเศสร้อยละ 40 ในปัจจุบันสืบเชื้อสายจากการอพยพนับตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20[107] กลุ่มแรกราว 1.1 ล้านคนอพยพเข้ามาในช่วง ค.ศ. 1921 ถึง 1935[108] กลุ่มที่สองราว 1.6 ล้านคนเป็นชาวฝรั่งเศสโพ้นทะเลที่เดินทางกลับประเทศกลับอาณานิคมในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือประกาศเอกราชราว ค.ศ. 1960[109][110] ฝรั่งเศสยังคงเป็นจุดหมายของการอพยพ มีผู้อพยพอย่างถูกกฎหมายเข้ามาราว 200,00 ต่อปี[111]และยังมีผู้ขอลี้ภัยอีกเป็นจำนวนมาก[112] สถาบันสถิติและเศรษฐกิจแห่งชาติประมาณการไว้ว่าผู้อพยพที่เป็นลูกหลานของชาวฝรั่งเศสมี 6.5 ล้านคน (ประมาณร้อยละ 11 ของประชากรทั้งหมด) และไม่ได้มีเชื้อสายฝรั่งเศสมีราว 5 ล้านคน (ประมาณร้อยละ 8 ของประชากรทั้งหมด) รวมแล้ว ประมาณหนึ่งในห้าของประชากรฝรั่งเศสเป็นลูกหลานของผู้อพยพ
ภาษา : รัฐธรรมนูญของฝรั่งเศส มาตรา 2 กำหนดให้ภาษาราชการคือ ภาษาฝรั่งเศส[116] เป็นกลุ่มภาษาโรมานซ์ที่มีรากมาจากภาษาละติน โดยมีสมาคมภาษาฝรั่งเศสเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านภาษาตั้งแต่ปี 1635 นอกจากนี้ ยังมีฝรั่งเศสยังมีคนพูดภาษาอุตซิตา ภาษาเบรอตง ภาษากาตาลา ภาษาเฟลมิช ภาษาบาสก์ และภาษาคอร์ซิกัน ที่พูดกันในท้องถิ่นด้วย แม้รัฐบาลฝรั่งเศสไม่ได้บังคับให้ประชาชนตีพิมพ์ผลงานเป็นภาษาฝรั่งเศส แต่ภาษาฝรั่งเศสยังมีความจำเป็นในการพาณิชย์และการทำงาน รัฐบาลฝรั่งเศสพยายามส่งเสริมให้ภาษาฝรั่งเศสได้รับการยอมรับในสหภาพยุโรปและทั่วโลก ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเคยเป็นภาษาที่พูดกันแพร่หลายในทางการทูตและเวทีระหว่างประเทศช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยภาษาอังกฤษ เนื่องจากการเรืองอำนาจของสหรัฐอเมริกาในเวทีการเมืองโลก[117] กระนั้น ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นภาษาที่มีผู้ศึกษามาเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในเขตอดีตอาณานิคมในแอฟริกา ประมาณการกันว่ามีคนพูดภาษาฝรั่งเศสได้รวม 300[118] ถึง 500[119] ล้านคนทั่วโลก หากนับภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่หรือภาษาที่สอง
ศาสนา : ฝรั่งเศสให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา มีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญโดยใช้หลักการแยกศาสนจักรกับอาณาจักร ผลสำรวจจากสถาบันมงตาญและสถาบันความเห็นสาธารณะฝรั่งเศสเผยว่า ชาวฝรั่งเศสร้อยละ 51.1 เป็นชาวคริสต์ ร้อยละ 39.6 ไม่นับถือศาสนาใด ร้อยละ 5.6 เป็นชาวมุสลิ ร้อยละ 2.5 นับถือศาสนาอื่น (เช่น ศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกส์) และอีกร้อยละ 0.4 ยังไม่ตัดสินใจ[120] ฝรั่งเศสมีชุมชนชาวยิงที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองจากอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา มีผู้นับถือศาสนายูดายนี้ราว ๆ 480,000 ถึง 600,000 คน[120] ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศสมากว่าพันปี มีศาสนสถานมากถึง 47,000 แห่งในประเทศ และราวร้อยละ 94 ของคริสตศาสนิกชนนับถือนิกายโรมันคาทอลิก[121] สถานที่สำคัญและความเชื่อทางศาสนาคริสต์ถูกทำลายไปอย่างมากในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส จากนั้นเมื่อปี 1905 รัฐบาลได้ออกกฎหมายแยกศาสนจักรออกจากคริสตจักรอย่างเป็นทางการ[122] ปัจจุบัน รัฐบาลจึงห้ามไม่ให้กลุ่มศาสนาใดมีสิทธิพิเศษเหนือกว่ากลุ่มอื่นในสังคม ในขณะเดียวกัน องค์กรทางศาสนาก็ไม่ควรแทรกแซงทางการเมือง
กีฬา : ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกมากมาย อาทิ จักรยานทางไกลตูร์เดอฟร็องส์[123] ฟุตบอลโลก 1938 และ 1998[124] รักบี้ชิงแชมป์โลก 2007[125] ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1960 1984 และ 2016 และฟุตบอลโลกหญิง 2019 สนามกีฬาสตาดเดอฟร็องส์ในเมืองแซ็ง-เดอนีเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส กีฬาที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสได้แก่ ฟุตบอล ยูโด เทนนิส[126] รักบี้[127] และเปตอง นอกจากนี้ รายการแข่งรถ 24 ชั่วโมง เลอม็อง[128] ยังเป็นที่รู้จัก เช่นเดียวกับเทนนิสแกรนด์สแลมเฟรนช์โอเพ่น ฝรั่งเศสมีสายสัมพันธ์ที่ยาวนานกับกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ก่อตั้งกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูร้อนสองครั้งในปี 1900 (กีฬาโอลิมปิกครั้งที่สอง) และ 1924 โดยทั้งสองครั้งจัดที่กรุงปารีส เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาวอีกสามครั้ง ในปี 1924 ที่ชามอนี ค.ศ. 1968 ที่เกรอนอบล์ และค.ศ.1992 ที่แอลเบอร์วีลล์ คณะกรรมการโอลิมปิกสากลเคยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีสก่อนจะย้ายไปนครโลซานในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
วัฒนธรรม : ฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมตะวันตกมาหลายศตวรรษ ได้รับการขนานนำว่ามีมรดกทางวัฒนธรรมจำนวนมากและหลากหลาย ความสำเร็จในการรักษาและเผยแพร่วัฒนธรรมเป็นผลงานที่สำคัญของกระทรวงวัฒนธรรมที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1959 มีการมอบเงินสนับสนุนจิตรกร ส่งเสริมวัฒนธรรมฝรั่งเศสให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก สนับสนุนการจัดเทศกาลและงานรื่นเริงทางวัฒนธรรมต่าง ๆ และบูรณะสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ ส่งผลให้ฝรั่งเศสมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมรดกทางวัฒนธรมเป็นจำนวนมาก มีพิพิธภัณฑ์กว่า 1,200 แห่งเปิดให้นักท่องเที่ยวกว่า 50 ล้านคนเข้ามาเยี่ยมชมเป็นประจำทุกปี[132] มีแหล่งโบราณสถานแห่งชาติ 85 แห่งที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากรัฐบาล ฝรั่งเศสมีแหล่งมรดกโลกในประเทศมากถึง 39 แห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
สถาปัตยกรรม : ในยุคกลางมีการสร้างป้อมปราการและปราสาทขึ้นโดยขุนนางในระบบศักดินาขึ้นเป็นจำนวนมาก และบางส่วนยังหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบันเช่น ปราสาทชินอง ปราสาทดองเกร์ส และปราสาทแห่งแวงเซน สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในยุคนี้คือสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ที่ได้รับความนิยมทั่วยุโรปตะวันตก สถาปัตยกรรมในยุคต่อมา คือ สถาปัตยกรรมกอทิก ถือกำเนิดขึ้นที่แคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ของฝรั่งเศส เดิมมีชื่อเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่า Opus Francigenum มีความหมายว่า งานแบบฝรั่งเศส[133] เป็นสถาปัตยกรรมแบบแรกของฝรั่งเศสที่ได้รับการทำซ้ำไปทั่วยุโรป[134] ฝรั่งเศสทางตอนเหนือมีอาคารและสิ่งก่อสร้างจำนวนมากที่เป็นแบบกอทิก อาทิ มหาวิหารแซ็ง-เดอนี อาสนวิหารชาทร์ อาสนวิหารอาเมียง และอาสนวิหารแร็งส์ที่เคยใช้ในพิธีสวมมงกุฎของกษัตริย์ฝรั่งเศส[135] นอกจากศาสนสถานแล้ว ยังมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอทิกที่เด่นชัดอีกมากมาย เช่น ปาแลเดปัป (วังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง) ชัยชนะของฝรั่งเศสในสงครามร้อยปีเป็นเหตุการณ์สำคัญต่อวิวัฒนาการของสถาปัตยกรรมในฝรั่งเศส เป็นยุคกำเนิดของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในฝรั่งเศส มีจิตรกรจากอิตาลีจำนวนมากได้รับคำเชิญให้มาตกแต่งคฤหาสน์ของผู้มั่งคั่งในฝรั่งเศสโดยเฉพาะในแถบลุ่มแม่น้ำลัวร์ เช่น วังมงซอโร[136] พระราชวังช็องบอร์ วังเชอนงโซ พระราชวังอ็องบวซ หลังจากนั้น สถาปัตยกรรมบาโรก เข้ามามีบทบาทแทนที่กอทิก สถาปัตยกรรมที่เด่นชัดได้แก่ พระราชวังแวร์ซาย ปลัสสตานิสลัส(ในขณะนั้นยังไม่อยู่ในฝรั่งเศส) ฌูล อาร์ดวง-ม็องซาร์หนึ่งในผู้ออกแบบแวร์ซายกลายเป็นสถาปนิกผู้มีอิทธิพลในยุคนี้ เช่นเดียวกับเซบัสเตียง เลอ แพร็สทร์ เดอ โวบ็อง ผู้ออกแบบป้อมปราการที่มีประสิทธิภาพและมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมทางการทหาร[137] หลังการปฏิวัติฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมลัทธิคลาสสิกใหม่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้นิยมสาธารณรัฐ มีการสร้างอาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล (ประตูชัย) และโบสถ์ลามาดแลน อันเป็นสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมยุคจักรวรรดิฝรั่งเศส ในสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 มีการสร้างเมืองแบบสมัยใหม่ โรงโอเปเราการ์นีเยถูกสร้างขึ้นในแบบนีโอ-บาโรก มีการวางผังเมืองอย่างเป็นระบบ สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอทิกได้รับความนิยมเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในยุโรป โดยมีเออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ต่อมา กุสตาฟ ไอเฟล ได้วางรางฐานของสะพานสมัยแบบใหม่ในฝรั่งเศส นำเสนอสิ่งก่อสร้างด้วยเหล็ก หนึ่งในนั้นที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดคือ หอไอเฟล ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เลอกอร์บูซีเย สถาปนิกชาวฝรั่งเศส-สวิส เป็นผู้ออกแบบสิ่งก่อสร้างหลายแห่งในฝรั่งเศส มีการใช้สถาปัตยกรรมแบบผสมระหว่างสมัยเก่าและสมัยใหม่ เช่น พีระมิดลูฟวร์ อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสไม่นิยมสร้างตึกระฟ้าบดบังทัศนียภาพ ในกรุงปารีสมีข้อบังคับนับตั้งแต่ปี 1977 ห้ามมิให้มีอาคารสูงกว่า 37 เมตรก่อตั้งขึ้น[138] อาคารสำนักงานจำนวนมากจึงมักตั้งอยู่ที่ลาเดฟ็องส์ เขตธุรกิจใหญ่ชานเมืองปารีสแทน สถาปนิกที่มีชื่อเสียงในยุคโมเดิร์นได้แก่ ฌ็อง นูแวล โดมินิก เปอร์โรลต์
วรรณกรรม : วรรณกรรมถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศสมานานนับสหัสวรรษ[139] และยังเป็นเครื่องมือสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่และความรุ่งเรื่องทางวัฒนธรรมของประเทศ[140][141] วรรณคดีฝรั่งเศสที่เก่าแก่ที่สุดมีมาตั้งแต่ยุคกลาง โดยนักเขียนใช้การสะกดและไวยากรณ์ของตนเอง ผู้เขียนตำรายุคกลางของฝรั่งเศสบางคนไม่เป็นที่รู้จัก เช่น Tristan และ Iseult และ Lancelot-Grail ผู้เขียนคนอื่น ๆ เป็นที่รู้จัก เช่น Chrétien de Troyes และ Duke William IX of Aquitaine กวีนิพนธ์และวรรณคดีฝรั่งเศสในยุคกลางส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานและความเชื่อดั้งเดิมของฝรั่งเศส เช่น บทเพลงแห่งโรแลนด์ และบทประพันธ์ต่าง ๆ Roman de Renart เขียนขึ้นในปี 1175 โดย Perrout de Saint Cloude บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครในยุคกลาง Reynard ('the Fox') และเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของงานเขียนภาษาฝรั่งเศสยุคแรก ๆ นักเขียนคนสำคัญของศตวรรษที่ 16 คือ François Rabelais ซึ่งนวนิยายเรื่อง Gargantua และ Pantagruel ยังคงมีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน Michel de Montaigne เป็นบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งของวรรณคดีฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษนั้น งานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขา Essais ได้สร้างแนววรรณกรรมคล้ายการเขียนเรียงความ
ศิลปะ : ประเทศฝรั่งเศสถือว่าเป็นหนึ่งในชาติที่มีความสำคัญยาวนานต่อโลกศิลปะ อีกทั้งยังเป็นบ่อเกิดของศิลปินและกระแสทางศิลปะที่สำคัญของโลกมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่ายิ่งกรุงปารีส[142] โดยปรากฏผลงานทางศิลปะตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆมากมาย ฝรั่งเศสเริ่มมีความก้าวหน้าด้านศิลปะหลังยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาฝรั่งเศส (French Renaissance) ในศตวรรษที่ 15[143] ซึ่งส่วนมากได้รับอิทธิพลมาจากอิตาลี และเริ่มโดดเด่นขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 17 ในยุคบาโรก (Baroque) จนมีความเจริญรุ่งเรืองเหนือกว่าอิตาลีในยุคโรโกโก (Rococo) และยุคนีโอคลาสสิก (Neo-Classic) ในช่วงศตวรรษที่ 18 ศูนย์กลางแห่งศิลปะของโลกเริ่มเคลื่อนย้ายจากอิตาลีมาสู่ฝรั่งเศส และตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมาฝรั่งเศสถือว่ามีความเจริญรุ่งเรืองด้านศิลปะถึงขีดสุด ในยุคอิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) ต่อเนื่องมาถึงยุคศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) ส่งผลให้กรุงปารีสได้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งศิลปะของโลกไปโดยปริยาย[144]
ปรัชญา : ลัทธิอัสมาจารย์ หรือวิธีคิดเชิงวิพากษ์ เป็นปรัชญาที่ได้รับความนิยมในสมัยกลาง ก่อนที่มนุษยนิยมจะได้รับความนิยมในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา นักปรัชญายุคใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 หลายคนกำเนิดที่ฝรั่งเศส เช่น เรอเน เดการ์ต แบลซ ปัสกาล และนิโกลา แมลบรันช์ โดยเดการ์ตเป็นผู้นำปรัชญาตะวันตกกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหลังยุคกรีกและโรมัน[145] หนังสือของเดการ์ตมีอิทธิพลต่อแนวคิดของนักปรัชญาคนอื่น ๆ ในยุโรปอีกมากมาย นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสยังมีอิทธิพลอย่างมากในยุคเรืองปัญญา หนังสือจิตวิญญาณแห่งกฎหมายของมงแต็สกีเยอมีบทบาทต่อการเผยแพร่ประชาธิปไตยเสรีนิยม เน้นการแบ่งอำนาจการปกครอง ก่อนที่วอลแตร์จะมาต่อยอดด้วยการสนับสนุนเสรีภาพทางศาสนา เสรีภาพในการพูด ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แนวคิดปรัชญาของฝรั่งเศสเป็นรูปแบบการตอบสนองความหวาดระแวงในสังคมสืบเนื่องจากการปฏิวัติฝรั่งเศส นักปรัชญาผู้รักเหตุและผลเช่นวิกเตอร์ กูแซ็งและออกุสต์ กองต์ เรียกร้องให้มีการใช้จารีตสังคมแบบใหม่ แต่ถูกต่อต้านโดยนักคิดหลายคนเช่น โยเซฟ เดอ เมสตร์ ผู้กล่าวโทษว่านักปรัชญาสายเหตุผลนิยมพยายามต่อต้านธรรมเนียมที่ดีงามของสังคม กองต์กลายเป็นผู้ต่อตั้งลัทธิปฏิฐานนิยม (positivism) ที่ยึดถือแนวความคิดที่ว่าองคภาวะซึ่งสามารถสังเกตได้โดยตรงจากประสบการณ์เท่านั้น มุ่งสร้างทฤษฎีหรือกฎทั่วไปซึ่งแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ต่าง ๆ แนวคิดนี้ได้รับการต่อต้านในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมื่อมีการก่อตั้งแนวคิดนิยมจิตวิญญาณขึ้น เช่น แนวคิดของอ็องรี แบร์กซอน ผู้เชื่อว่าประสบการณ์และสัญชาติญาณมีความสำคัญกว่าการคิดแบบเหตุผลตามสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกเท่านั้น ขณะเดียวกัน การศึกษาทฤษฎีของธรรมชาติและความรู้ก็มีความเด่นชัดมากขึ้นในศตวรรษนี้ มีนักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น อ็องรี ปวงกาเร หลังสงครามโลกครั้งที่สอง แนวคิดของฌ็อง-ปอล ซาทร์ ผู้นิยมในปรากฏการณ์วิทยาและอัตถิภาวนิยม ได้รับความนิยมอย่างมาก นำมาสู่การกำเนิดของปรัชญาหลังสมัยใหม่ เช่น แนวคิดของมีแชล ฟูโก
ภาพยนตร์ : นับตั้งแต่พี่น้อง Lumière ค้นพบการสร้างภาพยนตร์ใน 1895 ชาวฝรั่งเศสก็ชื่นชอบการชมภาพยนตร์อย่างมาก[146] เทศกาลภาพยนตร์กานจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และมีนักแสดงจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ชั้นนำซึ่งมีผู้ชมจากทั่วโลกผลงานของ ฌ็อง-ลุก กอดาร์, ฟร็องซัว ทรูว์โฟ, ฌ็อง-ปีแยร์ เฌอเน และ ลุก แบซง ได้ถูกนำเสนอใน 5 ทวีปหลังจากที่ถูกฉายในโรงภาพยนตร์ประเทศฝรั่งเศสถึง 2,000 โรง แม้ว่าตลาดภาพยนตร์ฝรั่งเศสจะถูกครอบงำโดยฮอลลีวูดมาหลายปี แต่ฝรั่งเศสเป็นประเทศเดียวในโลกที่ภาพยนตร์อเมริกันมีส่วนแบ่งรายได้น้อยที่สุดจากรายได้ทั้งหมด[147] โดยอยู่ที่ 50% เทียบกับ 77% ในเยอรมนีและ 69% ในญี่ปุ่น ภาพยนตร์ฝรั่งเศสคิดเป็น 35% ของรายได้ภาพยนตร์ทั้งหมดของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดของรายได้จากภาพยนตร์ในประเทศที่พัฒนาแล้วนอกสหรัฐอเมริกา เทียบกับ 14% ในสเปนและ 8% ในสหราชอาณาจักร ในปี 2013 ฝรั่งเศสเป็นผู้ส่งออกภาพยนตร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา[148] วงการภาพยนตร์ฝรั่งเศสผลิตนักแสดงคุณภาพที่มีชื่อเสียงมากมายมายาวนาน เช่น มารียง กอตียาร์, กาทรีน เดอเนิฟว์, ออเดรย์ ตาตู, เลอา แซดู, เจอราร์ด เดอปาดิเอ, วินเซ็นต์ แคสเซล และ ฌ็อง กาแบ็ง
แฟชั่น : แฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมและวัฒนธรรมที่สำคัญของฝรั่งเศสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 โอตกูตูร์ หรือเสื้อผ้าชั้นสูงเริ่มต้นที่กรุงปารีสราว ค.ศ. 1857 ในปัจจุบัน ปารีสเป็นมหานครแฟชันเช่นเดียวกับลอนดอน มิลาน และนิวยอร์ก เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์แฟชันชั้นนำมากมาย และคำว่า"โอตกูตูร์"เป็นคำที่ได้รับการสงวนไว้สำหรับงานฝีมือชั้นสูงในฝรั่งเศสเท่านั้นเพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพของสินค้า ความผูกพันระหว่างฝรั่งเศสกับแฟชั่นและสไตล์มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส[149] ในสมัยนั้น อุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยอยู่ภายใต้การควบคุมของทางการ ราชวงศ์ฝรั่งเศสนับได้ว่าเป็นผู้กำหนดรสนิยมและสไตล์ของยุโรป อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสกลับมาทวงบทบาทด้านผู้นำแฟนชันอีกครั้งในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1860 ถึง 1960 โดยมีแบรนด์แฟชันชั้นนำก่อตั้งขึ้นมากมาย รวมทั้ง ชาแนล ดิออร์ และจิว็องชี น้ำหอมของฝรั่งเศสได้รับความนิยมไปทั่วโลก[150] ช่วงความไม่สงบในประเทศฝรั่งเศส พฤษภาคม ปี 1968 เกิดการก่อต้าน"โอตกูตูร์"จากกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมาก มีการออกแบบเสื้อผ้ารูปแบบใหม่ที่พร้อมสวมใส่โดยอีฟว์ แซ็ง โลร็อง นำตลาดเสื้อผ้าเข้าสู่การผลิตแบบจำนวนมาก เกิดแบรนด์สินค้าที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเป็นจำนวนมาก ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 แบรนด์สินค้าฟุ่มเฟือยรวมตัวกันกลายเป็นบริษัทข้ามชาติ เช่น แอลวีเอ็มเอช
อาหาร : อาหารฝรั่งเศสได้รับการขนานนามว่ามีความปราณีตระดับแนวหน้าของโลก[151][152] สูตรอาหารดั้งเดิมแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ทางตอนเหนือของประเทศนิยมใช้เนยเป็นไขมันประกอบอาหาร ส่วนทางใต้นิยมใช้น้ำมันมะกอก[153] อาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงได้แก่ กาสซูเลต์จากทางตะวันตกเฉียงใต้ ชูครูตการ์นี(เซาเออร์เคราท์พร้อมไส้กรอกและมันฝรั่ง)จากแคว้นอาลซัส กิชจากแคว้นลอแรน เนื้อบูร์กิญงจากแคว้นบูร์กอญ ทาเปอนาดจากพรอว็องส์ เป็นต้น เครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศสคือ ไวน์[154] ไม่ว่าจะเป็นไวน์แชมเปญจน์ ไวน์บอร์โด ไวน์บูร์กอญ และไวน์โบโฌเลส์ นอกจากนี้ ชีสยังเป็นอาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศส มีมากมายกว่า 400 ชนิดแต่ที่เป็นที่รู้จักกันคือกาม็องแบร์ ร็อกฟอร์ และบรี[155][156] ในหนึ่งมื้ออาหารมักประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรกเรียกว่า ออเดิร์ฟ (hors d'œuvre) หรือ อองเตร (entrée) มักเสิร์ฟเป็นไข่ตุ๋น ซุปล็อบสเตอร์ ฟัวกรา ซุปหัวหอม หรือคร็อก-เมอซีเยอ ส่วนที่สอง คือจานหลัก (plat principal) มักเป็นปอโตเฟอหรือสแต็กฟริต ปิดท้ายด้วยส่วนที่สามคือ ขนมหวาน (dessert) หรือชีสรวม (fromage) ขนมหวานของฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักได้แก่ มิลเฟย มาการง เอแกลร์ แครมบรูว์เล มูส เครป และกาเฟลิเยฌัว คนฝรั่งเศสมองว่าอาหารคือองค์ประกอบที่สำคัญของคุณภาพชีวิต[157] มิชลินไกด์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ของฝรั่งเศสที่จะให้รางวัลดาวที่เรียกว่า"มิชลินสตาร์"แก่ร้านอาหารที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี การได้รับและเสียจำนวนดาวมีผลต่อชื่อเสียงและความสำเร็จของร้านอาหารอย่างมาก ร้านอาหารในฝรั่งเศสได้รับจำนวนดาวรวมกันมากถึง 620 ดวงเมื่อ พ.ศ. 2549[158][159] นับว่าสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในขณะนั้น นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังเป็นผู้ผลิตเบียร์และเหล้ารัมรายใหญ่ โดยมีแหล่งผลิตเบียร์อยู่ที่แคว้นอาลซัส (ร้อยละ 60 ของการผลิตทั้งประเทศ) แคว้นนอร์-ปาดกาแล และแคว้นลอแรน ส่วนแหล่งผลิตเหล้ารัมอยู่ที่เกาะเรอูนียง ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย
สื่อสารมวลชน : หนังสือพิมพ์รายวันระดับประเทศที่ขายดีที่สุดของฝรั่เศสคือ เลอปารีเซียง (ยอดขายราว 460,000 ฉบับต่อวัน) เลอมงด์ และเลอฟิกาโร (ยอดขายราว 300,000 ฉบับต่อวัน) และยังมีหนังสือพิมพ์เลอกิ๊ปที่เน้นเนื้อหาด้านกีฬา[160] แต่สื่อสิ่งพิมพ์ท้องถิ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือเวสต์ฟร็องส์ที่วางจำหน่ายทางตะวันตกของประเทศ มียอดขายสูงถึง 750,000 ฉบับต่อวัน[161][162] นิตยสารรายสัปดาห์ยังได้รับคามนิยมทั่วประเทศ มีมากกว่า 400 ชนิดครอบคลุมเนื้อหาที่หลากหลาย นิตยสารข่าวที่มีอิทธิพลสูงสุดคือ ลอบส์ (นิยมการเมืองฝ่ายซ้าย) เล็กซ์เพรส (เป็นกลาง) และเลอแปวง (นิยมการเมืองฝ่ายขวา) มียอดขายราว 400,000 ฉบับต่อสัปดาห์[164] แต่นิตยสารที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือนิตยสารรายเดือนสำหรับผู้หญิง เช่น มารี แคลร์ และแอล ซึ่งมีการตีพิมพ์ในต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม สำนักพิมพ์นิตยสารได้รับผลกระทบอย่างมากในปัจจุบันจากพฤติกรรมการอ่านของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หลายสำนักพิมพ์ต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาล[165] รัฐบาลฝรั่งเศสผูกขาดการกระจายเสียงทางโทรทัศน์และวิทยุจนถึงปี 1974 จากนั้นมีก่อตั้งองค์การกระจายเสียงวิทยุและแพร่ภาพโทรทัศน์แห่งฝรั่งเศส (ORTF) ขึ้นและแบ่งการดำเนินงานออกเป็นหน่วยงานย่อยหลายแห่ง แต่สถานีโทรทัศน์ 3 แห่งและสถานีวิทยุ 4 แห่งยังอยู่ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาล[166][167] จากนั้นในปี 1981 รัฐบาลได้อนุญาตให้มีการเปิดเสรีการกระจายสัญญาณวิทยุในประเทศ เป็นการยุติบทบาทรัฐในการผูกขาดวิทยุอย่างเป็นทางการ[168] ส่วนการแพร่ภาพโทรทัศน์นั้น รัฐบาลได้เปิดเสรีบางส่วน มีการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์เพื่อการพาณิชย์อีกหลายแห่ง พัฒนาสื่อโทรทัศน์ไปพร้อม ๆ กัน
สังคม : ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีอิทธิพลกับเวทีโลกจากการสำรวจของสำนักข่าวบีบีซีเมื่อปี 2010[169][170] สังคมฝรั่งเศสมีความเปิดกว้างทางด้านศาสนา ประชากรส่วนใหญ่ระบุในเอกสารเฉพาะสัญชาติแต่ไม่ระบุศาสนา[171] การปฏิวัติฝรั่งเศสเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่แทนแนวคิดแบบฝรั่งเศส ธงชาติฝรั่งเศส[172] เพลงชาติลามาร์แซแยซ และคำขวัญเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพเป็นสัญลักษณ์แทนประเทศฝรั่งเศสในสายตาของนานาประเทศ สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของฝรั่งเศสอีกอย่างหนึ่งคือ ไก่ โดยมีประวัติย้อนกลับไปในสมัยโรมันที่ชาวโรมเรียกดินแดนชาวเคลต์แถบนี้ว่า กัลลุส ซึ่งมีความหมายแปลได้ทั้งว่า ไก่ และ ที่อยู่ของชาวกอล ไก่จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ฝรั่งเศส กลุ่มปฏิวัติ และกลุ่มสาธารณรัฐ แสดงถึงเอกลักษณ์ของชาติ ใช้ในตราไปรษณียกรและเหรียญตรา[173] ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในผู้นำโลกที่ส่งเสริมด้านความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน คณะกรรมการบริหารในบริษัทร้อยละ 36.8 เป็นที่นั่งของสตรี[174] นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ผลสำรวจเมื่อปี 2013 ชี้ว่าประชาชนชาวฝรั่งเศสร้อยละ 77 มองว่าการแต่งงานในเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่สังคมควรยอมรับ[175] และฝรั่งเศสได้ออกกฎหมายรับรองเรื่องนี้ในปีเดียวกัน[176] ฝรั่งเศสยังมีบทบาทในการปกป้องสิ่งแวดล้อม เป็นประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2558 นำมาสู่ความตกลงปารีส ที่กำหนดมาตรการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลก
วันหยุด : วันหยุดราชการในประเทศฝรั่งเศส มี 11 วัน
วันหยุดในประเทศฝรั่งเศส :
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่ Nouvel an / Jour de l'an / Premier de l'an
เปลี่ยนแปลงได้ วันศุกร์ประเสริฐ Vendredi saint วันศุกร์ ก่อน อีสเตอร์วันอาทิตย์ (สังเกตเพียง แคว้นอาลซัส และ จังหวัดมอแซล)
เปลี่ยนแปลงได้ วันจันทร์อีสเตอร์ Lundi de Pâques วันจันทร์ หลัง อีสเตอร์วันอาทิตย์ (หนึ่งวัน หลัง อีสเตอร์วันอาทิตย์)
1 พฤษภาคม เมย์เดย์/วันแรงงาน Fête du Travail / Fête des Travailleurs
8 พฤษภาคม วันชัยในทวีปยุโรป Fête de la Victoire การสิ้นสุดของสงคราม ทวีปยุโรป ในสงครามโลกครั้งที่ 2i
เปลี่ยนแปลงได้ วันเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ Ascension วันพฤหัสบดี 39 วัน หลังเทศกาลอีสเตอร์วันอาทิตย์
เปลี่ยนแปลงได้ วันจันทร์เล็กน้อย Lundi de Pentecôte วันจันทร์ หลังMonday afterเทศกาลเฉลิมฉลองของศาสนาคริสต์ตรงกับวันอาทิตย์ที่7หลังวันอีสเตอร์ (50 วัน)
14 กรกฎาคม วันบัสตีย์ Fête nationale เป็นวันชาติของประเทศฝรั่งเศส
15 สิงหาคม วันแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ L'Assomption de Marie
1 พฤศจิกายน วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย La Toussaint
11 พฤศจิกายน วันสงบศึก Armistice de 1918 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1
25 ธันวาคม วันคริสต์มาส Noël
26 ธันวาคม วันนักบุญสเทเฟน Saint-Étienne
ภาษาฝรั่งเศส : français
ออกเสียง : [fʁɑ̃sɛ]
ประเทศที่มีการพูด : ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม, ลักเซมเบิร์ก
จำนวนผู้พูด : 76.8 ล้านคนทั่วโลก (ไม่พบวันที่) 321 ล้านคน (ภาษาแม่บวกภาษาที่สอง; 2022)[1][2]
ตระกูลภาษา : อินโด-ยูโรเปียน อิตาลิก โรมานซ์ โรมานซ์ตะวันตก โรมานซ์กอล ล็องก์ดอยล์ ภาษาฝรั่งเศส
รูปแบบก่อนหน้า : ละตินเก่า ละตินคลาสสิก ละตินสามัญ ฝรั่งเศสเก่า ฝรั่งเศสกลาง ภาษาฝรั่งเศส
ระบบการเขียน : อักษรละติน (ชุดตัวอักษรฝรั่งเศส) อักษรเบรลล์ฝรั่งเศส
สถานภาพทางการ
ภาษาทางการ : 29 ประเทศ การบริหาร/วัฒนธรรม หน่วยในภาวะพึ่งพิงและหน่วยระดับอนุภูมิภาค 10 หน่วย ผู้วางระเบียบ อากาเดมีฟร็องแซซ (ฝรั่งเศส) และสำนักงานภาษาฝรั่งเศสควิเบก (ควิเบก)
รหัสภาษา : ISO 639-1 fr ISO 639-2 fre (B) fra (T) ISO 639-3 fra Linguasphere 51-AAA-i
ภาษาฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: français, ออกเสียง: [fʁɑ̃sɛ]; หรือ langue française, ออกเสียง: [lɑ̃ɡ fʁɑ̃sɛːz]) เป็นภาษากลุ่มโรมานซ์ภาษาหนึ่งในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน สืบทอดมาจากภาษาละตินสามัญในจักรวรรดิโรมันเช่นเดียวกับภาษากลุ่มโรมานซ์ทั้งหมด ภาษาฝรั่งเศสวิวัฒนาการมาจากภาษาโรมานซ์กอลซึ่งเป็นภาษาละตินที่พูดกันในกอล (โดยเฉพาะกอลตอนบน) ภาษาที่ใกล้ชิดกับภาษานี้คือล็องก์ดอยล์ (กลุ่มของภาษาที่พูดกันในตอนเหนือประเทศฝรั่งเศสและตอนใต้ของประเทศเบลเยียมในอดีต ซึ่งถูกแทนที่ด้วยภาษาฝรั่งเศสเป็นส่วนมากในเวลาต่อมา) ภาษาฝรั่งเศสยังได้รับอิทธิพลจากภาษากลุ่มเคลต์ในแกลเลียเบลจิกาและภาษาแฟรงก์ (ภาษากลุ่มเจอร์แมนิก) ของชาวแฟรงก์หลังสมัยโรมัน ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการใน 29 ประเทศในหลายทวีป[3] ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (อออิฟ) ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นหนึ่งในหกภาษาทางการของสหประชาชาติ[4] และเป็นภาษาแม่ (ตามจำนวนผู้พูด) ในฝรั่งเศส; แคนาดา (โดยเฉพาะรัฐควิเบก, รัฐออนแทรีโอ และรัฐนิวบรันสวิก); เบลเยียม (แคว้นวอลลูนและภูมิภาคเมืองหลวงบรัสเซลส์); ภาคตะวันตกของสวิตเซอร์แลนด์ (รอม็องดี); ส่วนหนึ่งของลักเซมเบิร์ก; ส่วนหนึ่งของสหรัฐ (รัฐลุยเซียนา, รัฐเมน, รัฐนิวแฮมป์เชียร์ และรัฐเวอร์มอนต์); โมนาโก; แคว้นวัลเลดาออสตาในอิตาลี และอื่น ๆ [5] ใน ค.ศ. 2015 ประมาณร้อยละ 40 ของประชากรที่พูดภาษาฝรั่งเศส (รวมผู้พูดภาษาที่สองและผู้พูดได้บางส่วน) อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป, ร้อยละ 36 อยู่ในแอฟริกาใต้สะฮาราและมหาสมุทรอินเดีย, ร้อยละ 15 อยู่ในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง, ร้อยละ 8 อยู่ในทวีปอเมริกา และร้อยละ 1 ในทวีปเอเชียและโอเชียเนีย[6] ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ที่มีผู้พูดมากเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป[7] ประมาณหนึ่งในห้าของชาวยุโรปที่พูดภาษาอื่นเป็นภาษาแม่สามารถพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง[8] สถาบันทั้งหมดของสหภาพยุโรปใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทำงานร่วมกับภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมัน และในบางสถาบันใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทำงานเพียงภาษาเดียว (เช่นศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป)[9] ภาษาฝรั่งเศสยังเป็นภาษาแม่ที่มีผู้พูดมากเป็นอันดับ 18 ของโลก ภาษาที่มีจำนวนผู้พูดมากเป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นภาษาที่มีการเรียนรู้มากเป็นอันดับ 2 หรือ 3 ทั่วโลก (มีผู้เรียนประมาณ 120 ล้านคน)[10] ลัทธิอาณานิคมของฝรั่งเศสและเบลเยียมตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมาส่งผลให้ภาษาฝรั่งเศสเริ่มกระจายไปในทวีปอเมริกา, แอฟริกา และเอเชีย ผู้พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สองส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกาที่พูดภาษาฝรั่งเศส ได้แก่ กาบอง, แอลจีเรีย, โมร็อกโก, ตูนิเซีย, มอริเชียส, เซเนกัล และโกตดิวัวร์[11] ภาษาฝรั่งเศสมีผู้พูดเป็นภาษาแม่ประมาณ 76 ล้านคน โดยมีผู้พูดอย่างคล่องแคล่วในชีวิตประจำวันประมาณ 235 ล้านคน[12][13][14] และผู้พูดเป็นภาษาที่สอง 77–110 ล้านคนในระดับความคล่องแคล่วที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกา[15] อออิฟรายงานว่าประมาณ 300 ล้านคนทั่วโลก "สามารถพูดภาษานี้ได้"[16] โดยไม่ระบุเกณฑ์การประมาณหรือกลุ่มบุคคลที่สำรวจ[2] รายงานจากการฉายภาพประชากรของมหาวิทยาลัยลาวาลและเครือข่ายประชากรศาสตร์แห่งสมาคมมหาวิทยาลัยที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสคาดว่าในอนาคตอาจจะมีจำนวนผู้พูดภาษาฝรั่งเศสสูงถึงประมาณ 500 ล้านคนใน ค.ศ. 2025 และ 650 ล้านคนใน ค.ศ. 2050[17] อออิฟประมาณการว่าจะมีผู้พูดถึง 700 ล้านใน ค.ศ. 2050 โดยร้อยละ 80 อาศัยอยู่ในแอฟริกา[6] ภาษาฝรั่งเศสมีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานว่าเป็นภาษาระหว่างประเทศในวรรณกรรมและวิทยาศาสตร์ และเป็นภาษาแรกหรือภาษาที่สองในหลายองค์กร เช่น สหประชาชาติ, สหภาพยุโรป, เนโท, องค์การการค้าโลก, คณะกรรมการโอลิมปิกสากล และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ใน ค.ศ. 2011 บลูมเบิร์กบิสเนสวีก จัดให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่เหมาะแก่การทำธุรกิจมากที่สุดเป็นอันดับสาม เป็นรองเพียงภาษาอังกฤษและภาษาจีนมาตรฐาน[18]
ประวัติ : ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาในกลุ่มภาษาโรมานซ์ กล่าวคือ เป็นภาษาที่มีต้นกำเนิดจากภาษาละตินที่พูดกันในจักรวรรดิโรมันโบราณ ก่อนหน้าที่ดินแดนที่เป็นที่ตั้งประเทศฝรั่งเศสในปัจจุบันจะอยู่ใต้การปกครองของโรมัน ดินแดนดังกล่าวเคยอยู่ใต้การปกครองของพวกกอล ซึ่งเป็นหนึ่งในชนชาติเคลต์ ในสมัยนั้นดินแดนประเทศฝรั่งเศสมีคนที่พูดภาษาถิ่นต่าง ๆ กันหลายภาษา แม้ว่าชาวฝรั่งเศสจะชอบสืบที่มาของภาษาของตนไปถึงพวกโกล (les Gaulois) แต่มีคำในภาษาฝรั่งเศสเพียง 2,000 คำเท่านั้นที่มีที่มามาจากภาษาของพวกโกล ซึ่งโดยมากจะเป็นคำที่ใช้เป็นชื่อสถานที่ หรือเป็นคำที่มีความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติ หลังจากที่ชาวโรมันได้เข้ามายึดดินแดนของพวกโกล คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นก็ได้เปลี่ยนมาพูดภาษาละติน ซึ่งภาษาละตินที่พูดกันในบริเวณนี้ ไม่ใช่ภาษาละตินชั้นสูงแบบที่พูดกันในหมู่ชนชั้นสูงของกรุงโรม แต่เป็นภาษาละตินของชาวบ้าน (vulgar latin) ที่พูดกันในหมู่พลทหาร นอกจากนี้ ภาษาละตินที่พูดกันอยู่ในฝรั่งเศสนั้น ก็ได้รับอิทธิพลจากภาษากอลอยู่พอควร เนื่องจากสิ่งของบางอย่างที่ใช้กันอยู่ในกอล พวกโรมันไม่มีชื่อเรียก จึงต้องขอยืมคำในภาษาโกลมาเรียกสิ่งของเหล่านั้น เช่น les braies ซึ่งแปลว่าเครื่องแต่งกายจำพวกกางเกงของชาวโกล ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการ และภาษาที่ใช้ปกครองในชุมชนต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ด้วย (เช่น สหภาพยุโรป ไอโอซี องค์การสหประชาชาติ และสหภาพสากลไปรษณีย์) ในสมัยก่อนภาษาฝรั่งเศสถือเป็นภาษาสากลที่แพร่หลายที่สุด โดยมีสถานะเฉกเช่นภาษาอังกฤษในปัจจุบัน หนังสือเดินทางของไทยก็เคยใช้ภาษาฝรั่งเศสควบคู่กับภาษาไทย
ยุคอาณาจักรแฟรงก์ : หลังจากคริสต์ศตวรรษที่ 3 เป็นต้นมา จักรวรรดิโรมันก็เสื่อมอำนาจ ดินแดนหลายส่วนของจักรวรรดิโรมันตกอยู่ในเงื้อมมือของชนเผ่าป่าเถื่อนหลายพวก ชนเผ่าป่าเถื่อนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนที่เป็นประเทศฝรั่งเศสปัจจุบัน ได้แก่ ชนเผ่าแฟรงก์ที่อาศัยอยู่ทางเหนือ ชนเผ่าวิซิกอทที่อาศัยอยู่ทางใต้ ชนเผ่าเบอร์กันดีในบริเวณริมแม่น้ำโรน และชนเผ่าเอลแมนที่อาศัยอยู่บริเวณพรมแดนของประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี ชนเผ่าป่าเถื่อนเหล่านี้พูดภาษากลุ่มเจอร์แมนิก สำเนียงของชนเหล่านี้ได้ส่งผลต่อภาษาละตินที่เคยพูดอยู่เดิมในฝรั่งเศส และคำจากภาษาของชนป่าเถื่อน ได้แก่ คำที่มีความหมายเกี่ยวกับยุทธวิธีในการรบ และชนชั้นทางสังคม ได้ถูกนำมาใช้ในภาษาละตินที่พูดกันอยู่ในฝรั่งเศส โดยภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันมีคำที่มีที่มาจากคำในภาษาของชนป่าเถื่อนอยู่ประมาณ ร้อยละ 60
ภาษาฝรั่งเศสในยุคกลาง : นักภาษาศาสตร์ได้จัดจำแนกภาษาฝรั่งเศสที่พูดกันในยุคกลางออกเป็น 3 จำพวก คือ พวกแรกคือภาษาที่เรียกกันว่า Langue d'Oïl พูดกันอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ พวกที่สองคือ Langue d'Oc ที่พูดกันอยู่ทางใต้ของประเทศ และพวกที่สามคือ Franco-Provençal ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของสองภาษาแรก Langue d'Oïl เป็นภาษาที่ใช้คำว่า oïl ในคำพูดว่า "ใช่" (ปัจจุบันใช้คำว่า oui) ในสมัยกลางภาษานี้จะพูดกันในตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส ภาษา Langue d'oïl เติบโตต่อมาจนกลายเป็นภาษาฝรั่งเศสเก่า ช่วงระยะเวลาของภาษาฝรั่งเศสเก่าอยู่ระหว่าง ศตวรรษที่ 8 กับ ศตวรรษที่ 14 ภาษาฝรั่งเศสเก่ามีลักษณะร่วมกันหลายอย่างกับภาษาลาติน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลำดับคำในประโยคซึ่งมีอิสระสูงเหมือนภาษาลาติน และต่างกับการบังคับทางไวยกรณ์ของภาษาฝรั่งเศสในปัจจุบัน Langue d'Oc เป็นภาษาที่ใช้คำว่า oc ในคำพูดว่า "ใช่" ภาษานี้พูดกันอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและทางเหนือของสเปน ซึ่งภาษานี้จะมีลักษณะคล้ายกับภาษาละตินมากกว่า Langue d'Oïl
ภาษาฝรั่งเศสยุคใหม่ : นักวิชาการเรียกภาษาฝรั่งเศสที่พูดในช่วงก่อนหน้าปี พ.ศ. 1843 ซึ่งก็คือภาษา Langue d'Oïl ว่าเป็นภาษาฝรั่งเศสเก่า เอกสารฉบับแรกที่เขียนขึ้นเป็นภาษาฝรั่งเศสเก่า คือ "คำปฏิญาณแห่งสตราสบูร์ก" (Strasbourg) ซึ่งเขียนขึ้นในปี พ.ศ. 1385 ในปี พ.ศ. 2082 พระเจ้าฟรองซัวที่ 1 ได้ออกพระราชกฎษฎีกาที่กำหนดให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการของฝรั่งเศสแทนที่ภาษาละติน และกำหนดให้ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการบริหารราชการ ในราชสำนัก และในการพิจารณาคดีในศาล ในช่วงนี้ได้มีการปรับปรุงตัวสะกดและการออกเสียงในภาษาฝรั่งเศส นักวิชาการเรียกภาษาฝรั่งเศสในยุคนี้ว่า ภาษาฝรั่งเศสยุคกลาง ในศตวรรษที่ 17 หลังจากที่มีการกำหนดมาตรฐานภาษาฝรั่งเศสให้พูดสำเนียงเดียวกันทั่วประเทศ การปรับปรุงและการกำหนดหลักต่าง ๆ ของภาษา ก็ทำให้เกิดภาษาฝรั่งเศสที่เรียกกันว่าภาษาฝรั่งเศสยุคใหม่ ซึ่งพูดกันอยู่ในปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2177 พระคาร์ดินัลรีเชอลีเยอ (Richelieu) ได้ก่อตั้งองค์กรที่เรียกว่า L'Académie Française (ลากาเดมีฟร็องแซซ หรือ บัณฑิตยสถานฝรั่งเศส ซึ่งเปรียบได้กับสำนักงานราชบัณฑิตยสภาของไทย) เพื่อทำหน้าที่ดูแลรักษาภาษาฝรั่งเศสไว้ไม่ให้วิบัติ และคงภาษาฝรั่งเศสให้อยู่ในรูปแบบเดิมให้มากที่สุด ในช่วงศตวรรษที่ 17-19 ฝรั่งเศสได้มีบทบาทสำคัญในการเมืองของทวีปยุโรป และเป็นศูนย์กลางของปรัชญารู้แจ้งที่แพร่หลายกันอยู่ในสมัยนั้น ทำให้อิทธิพลของภาษาฝรั่งเศสแผ่ออกไปกว้างขวางและกลายเป็นภาษากลางของยุโรป มีบทบาทสำคัฐทางการทูต วรรณคดี และศิลปะ มหาราชในยุคนั้นสองพระองค์ คือ พระนางแคทเธอรีนมหาราชินีแห่งรัสเซีย และพระเจ้าเฟรดริกมหาราชแห่งปรัสเซีย สามารถตรัสและทรงพระอักษรเป็นภาษาฝรั่งเศสได้ดี
ภาษาฝรั่งเศสในปัจจุบัน : ภาษาฝรั่งเศสในปัจจุบัน ถูกแทรกซึมโดยอิทธิพลของภาษาอังกฤษที่แผ่ขยายอย่างกว้างขวาง มีการนำคำภาษาอังกฤษมาใช้ปะปนกับภาษาฝรั่งเศสเดิมอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีผลเสียต่อการอนุรักษ์ภาษาฝรั่งเศส รัฐบาลได้ออกกฎหมายบางฉบับเพื่ออนุรักษ์ภาษาฝรั่งเศส โดยกำหนดให้ใช้คำจากภาษาฝรั่งเศสแท้ ๆ ในโฆษณา ประกาศ และเอกสารราชการต่าง ๆ นอกจากนี้ยังกำหนดให้สถานีวิทยุทุกสถานี เปิดเพลงภาษาฝรั่งเศสอย่างน้อยร้อยละ 40 ของเพลงทั้งหมดที่เปิดในสถานีนั้น
สถานะของภาษาฝรั่งเศสในประเทศฝรั่งเศส : ฝรั่งเศสกำหนดให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการของประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 รัฐบาลกำหนดให้เอกสารราชการ สัญญาต่าง ๆ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การศึกษา จะต้องทำเป็นภาษาฝรั่งเศส หากจำเป็นต้องใช้คำภาษาต่างประเทศ ก็ให้ใส่คำแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสควบคู่กันไปด้วย อย่างไรก็ดี ทางการไม่ได้ควบคุมการใช้ภาษาในเอกสารของเอกชน และในเว็บไซต์ของเอกชน ซึ่งหากทำการควบคุมแล้ว ก็อาจขัดต่อหลักการเสรีภาพในการพูดได้
สถานะของภาษาฝรั่งเศสในประเทศแคนาดา : ร้อยละ 12 ของคนที่พูดภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ในโลกนี้เป็นชาวแคนาดา และภาษาฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในภาษาทางการสองภาษาของแคนาดา (อีกภาษาหนึ่งคือภาษาอังกฤษ) กฎหมายของแคนาดากำหนดให้บริการต่าง ๆ ของรัฐบาลกลางจะต้องจัดให้เป็นสองภาษาเสมอ กฎหมายต่าง ๆ ที่ผ่านรัฐสภา จะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส และฉลากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่วางขายในแคนาดาจะต้องมีภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ร้อยละ 22 ของชาวแคนาดาใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ และร้อยละ 18 ของชาวแคนาดาสามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ภาษาฝรั่งเศสมีสถานะเป็นภาษาทางการเพียงภาษาเดียวของรัฐควิเบก (เกเบก - Québec) มาตั้งแต่การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยภาษาฝรั่งเศส (Bill 101) ผลสำคัญข้อหนึ่งของกฎหมายฉบับนี้คือกำหนดให้เด็กในควิเบกต้องได้รับการศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส ยกเว้นถ้าบิดามารดาของเด็กคนนั้นได้รับการศึกษาส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษภายในประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นการทำลายค่านิยมของผู้อพยพที่มักส่งบุตรหลานของคนเข้าเรียนในโรงเรียนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ กฎหมายนี้ยังกำหนดให้ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการพิจารณาคดี โฆษณา การอภิปรายในสภา และการพิจารณาคดีในศาล ภายในควิเบก ใน พ.ศ. 2536 กฎหมายนี้ได้รับการแก้ไข โดยอนุญาตให้เขียนป้ายสัญลักษณ์หรือโฆษณาต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษได้บ้าง ตราบใดที่ยังมีภาษาฝรั่งเศสเป็นส่วนมาก นอกจากนี้ยังทำให้คนที่พูดภาษาอังกฤษแต่อาศัยในควิเบกสามารถรับบริการทางสุขภาพและบริการของรัฐเป็นภาษาอังกฤษได้ รัฐอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการควบคู่ไปกับภาษาอังกฤษ ได้แก่รัฐนิวบรันสวิก ยูคอนเทร์ริทอรี นอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ และนูนาวุต ในรัฐออนแทรีโอ และแมนิโทบา ภาษาฝรั่งเศสไม่ได้มีสถานะเป็นภาษาทางการ แต่รัฐบาลของรัฐทั้งสองรัฐได้จัดการบริการต่าง ๆ เป็นภาษาฝรั่งเศสคู่กับภาษาอังกฤษ ในบริเวณที่มีคนที่พูดภาษาฝรั่งเศสอาศัยอยู่มาก
สถานะของภาษาฝรั่งเศสในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ : ภาษาฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในภาษาทางการของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภาษาอื่น ๆ ได้แก่ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาลี และภาษารูมันช์
Votre unique agence de traduction et localisation
Soutenu par des locuteurs natifs engagés et professionnels qui éliminent les barrières linguistiques en traduisant efficacement le contenu dans un large éventail de services.
Nous offrons des services de traduction de la plus haute qualité dans le monde entier dans plus de 196 langues en utilisant notre expertise complète.
Nous croyons en l'expérience massive de nos locuteurs natifs qui convertissent avec précision le contenu en plusieurs langues.
Nous sommes facilement accessibles et abordables par nos clients en termes de services de traduction, d'édition et de relecture.
Traductions
Nous offrons des services de traduction de haute qualité, précis et professionnels dans plus de 196 langues en utilisant notre expertise.
Localisation
Nous fournissons des services de localisation en convertissant des documents, des logiciels, du multimédia et des sites Web dans une culture et une langue particulières.
Traduction technique
Nous fournissons des services de traduction technique, qu'il s'agisse de dessins techniques ou de documents d'ingénierie.
Traduction de site Web
Nous traduisons les sites Web les mieux notés selon les demandes du client pour transmettre le bon message dans la bonne langue.
Traduction financière
Nous convertissons les documents financiers dans les langues préférées de nos précieux clients, ce qui peut les aider à résoudre davantage de leurs problèmes financiers.
Traduction médicale
Nous traduisons une gamme de documents médicaux, y compris des prescriptions médicales, des brochures médicales et des guides pour aider nos clients.
NAATI
Nous traduisons une gamme de documents médicaux, y compris des prescriptions médicales, des brochures médicales et des guides pour aider nos clients.
Bureau de notaire
Un notaire public de common law est un fonctionnaire public constitué par la loi pour servir le public dans des affaires non contentieuses généralement liées aux successions, aux actes, aux procurations et aux affaires étrangères et internationales.
POURQUOI NOUS CHOISIR
iTS (i Translation Services) est votre agence ultime de traduction et de localisation. Une équipe de locuteurs natifs engagés qui s'adressent aux secteurs juridique, médical, technique et commercial pour une large gamme de services. Chez NYC Online Translation Services, nous bénéficions de l'excellent soutien de locuteurs natifs expérimentés qui non seulement traduisent le contenu, mais garantissent que votre message de contenu trouve la bonne voix lorsqu'il est converti dans une nouvelle langue. Très fiables et facilement accessibles, car nos experts fournissent des services de traduction dans le monde entier sans tracas dans plus de 196 langues actuellement parlées dans le monde d'aujourd'hui. Outre l'expertise des services de traduction et de localisation, nos locuteurs natifs restent occupés à satisfaire les exigences de traduction de nos clients, ce qui les rapproche davantage de l'agence. Ceux qui visent à améliorer la productivité de l'entreprise et le chiffre d'affaires peuvent certainement consulter nos experts en agence pour obtenir des services de qualité.
QUI NOUS SOMMES
iTS (i Translation Services) est une société créée en 2009 dans le but d'accompagner les entreprises confrontées à des défis linguistiques. Pour surmonter les barrières et les défis linguistiques, chez iTS (i Translation Services), nous fournissons des services de traduction linguistique exceptionnels dans les domaines respectifs de l'informatique, de la médecine, du droit, du génie mécanique et des sciences. Heureusement, nos locuteurs de langue maternelle maîtrisent parfaitement la satisfaction des besoins des clients en fournissant une gamme de services de traduction de qualité couvrant la traduction de sites Web, la traduction juridique, la traduction médicale, la traduction de logiciels et divers services de traduction. De plus, nos traducteurs qualifiés chez iTS adorent respecter les délais et fournir une gamme de services de traduction en temps opportun et de manière appropriée.
บริการแปลเอกสารมากกว่า 1960 ภาษาทั่วโลก
สถาบันภาษา และ รับรองเอกสาร iTS (Immigration and Translation Service) Thailand รับแปลเอกสารแบบ Online ทุกภาษาทั่วโลก มากกว่า 196 ภาษา บริการแปลเอกสารพร้อมรับรองโดยสถาบันแปลภาษาที่มีชื่อเสียง และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายประเทศไทย และเรายังมีบริการแปลเอกสารพร้อมรับรองเอกสารตามความต้องการของลูกค้า อาธิ เช่น แปลและรับรองเอกสารโดยนักแปลสถานทูต, แปลและรับรองเอกสารโดยนักแปล NAATI เพื่อนำเอกสารไปใช้ที่ประเทศออสเตรเลีย, บริการแปลและรับรองโดยกระทรวงต่างประเทศ หรือกงสุล, แปลเอกสารพร้อมรับรองคำแปลโดยทนาย Notary Public และบริการอื่น ๆ เกี่ยวกับภาษาแบบครบวงจร
สถาบันแปลภาษา และ รับรองเอกสารภาษาฝรั่งเศส iTS (Immigration and Translation Service) Thailand แหล่งรวมนักแปลเอกสาร มืออาชีพและเป็นเจ้าของภาษา เปี่ยมประสบการณ์ จากหลายสาขาอาชีพ เราคือผู้ให้บริการแปลเอกสารตัวจริง เสียงจริง พิสูจน์ความแตกต่างวันนี้ สถาบันการแปลภาษาของเรา รับแปลเอกสาร และ รับรองเอกสารสำคัญ ทุกประเภท ทุกภาษา บริการ รับแปลเอกสาร ของศูนย์การแปล iTS (Immigration and Translation Service) Thailand ครอบคลุม บริษัท องค์กรขนาดใหญ่ เล็ก บุคคลธรรมดา และนักเรียน นักศึกษา แปลเอกสารราชการ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เรามีศูนย์บริการมากถึง 22 สาขาทั่วประเทศไทย ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการในจังหวัดที่ลูกค้าอยู่ หรือหากไม่มีสาขาในจังหวัดที่ลูกค้าพำนักอยู่สามารถส่งงานแปลกับทางสำนักงานใหญ่แบบ Online ได้ทั้งทางช่องทาง Website, Email, Line Chat Application, WhatsApp ตามความสะดวกของลูกค้า เราทำงานแปลเป็นอาชีพ มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และมีบริษัทในเครืออย่างเช่น NYC Translation Co., Ltd. , NYC Visa Service Co., Ltd. , NYC Language Institute (สถาบันภาษาเอ็นวายซี) , NYC School , NYC Education , ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในงานเอกสารหลากหลายรูปแบบ และมีความแม่นยำในการให้คำปรึกษา สามารถแนะนำลูกค้าได้อย่างถูกต้อง เรามีนักแปลหลากหลายภาษา และมีนักแปลที่มี่ความชำนาญของงาน แต่ละประเภท เป็นการแปลโดยใช้มนุษย์แปลไม่ใช้ Google Translate ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีงานแปลเอกสารมากน้อยเพียงใด หรือต้องการแปลเอกสารชนิดไหนสามารถติดต่อเราได้ สถาบันแปลภาษาของเรายินดีให้คำปรึกษา เราบริการ แปลเอกสาร แปลภาษา ทุกประเภท โดยนักแปลมืออาชีพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เช่น
แปลเอกสารราชการ บริการแปลเอกสารราชการ แปลเอกสารสำคัญ แปลเอกสารรับรอง ทุกประเภท ทุกภาษา รับรองเอกสาร กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ รับรองทนาย กระทรวงยุติธรรม โนตารี่ พับลิค (Notary Public) และอื่น ๆ ทุกประเภท
แปลเอกสารเฉพาะทาง รับแปลคู่มือ เอกสารฝึกอบรม แปลงบการเงิน รายงานประจำปี เอกสารวิชาการ เอกสารความปลอดภัย แปลหนังสือรับรองบริษัท จุดประสงค์บริษัท เอกสารการจดทะเบียนบริษัท รายชื่อผู้ถือหุ้น, รายงานประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ
แปลสัญญา แปลกฎหมาย เอกสารซื้อขาย เช่าซื้อต่าง ๆ แปลสิทธิบัตร หนังสือบริคณฑ์สนธิ ทุกประเภท โดยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย พร้อมรับรองเอกสาร
จัดหาล่าม บริการจัดหาล่ามภาษาหลักๆ ล่ามแปลสด ล่ามงานสัมมนา ล่ามรับรองแขกต่างชาติ ล่ามนำเที่ยว
บริการเขียน resume บริการเขียนจดหมายแนะนำตัว (Cover Letter) รับเขียน resume, เขียน essayหริอ statement of purpose สำหรับสมัครงาน เรียนต่อ รวมถึงจดหมายประเภทอื่น ๆ ทุกประเภท รับเขียนบทความ SEO
แปลโฆษณา แปลซับไตเติ้ลหนัง ละคร โบรชัวร์ ลงเสียง พากษ์เสียง แปลเว็บไซต์ presentation นำเสนอผลงาน ทำตัวอักษร Art Work หรือ Desktop Publishing
แปลงานวิจัย แปลหนังสือเรียน แปลบทคัดย่อ ตรวจแก้วิทยานิพนธ์ แปลข่าวต่างประเทศ บทความวิชาการ journal จากต่างประเทศ ทุกภาษา
แปลจดหมาย แปลจดหมายติดต่อกับเพื่อนต่างชาติ แปลอีเมล์ หาคู่ต่างชาติ ให้คำปรึกษาการแต่งงานกับชาวต่างชาติ และแปลเอกสารอื่น ๆ
การแปลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด อย่างกว้างๆ ดังนี้
การแปลตรงตัว (literal translation) – หรือการแปลตามตัวอักษร เป็นการแปลโดยพยายามคงความหมายและโครงสร้างของต้นฉบับไว้มากที่สุด มุ่งความถูกต้องแม่นยําเป็นหลัก แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง (Structure) และการใช้คําบ้าง เพื่อให้เป็นไปตามหลักการใช้ภาษาของภาษาฉบับแปล การแปลลักษณะนี้ใช้ในกลุ่มนักวิชาการหรือกลุ่มเฉพาะอาชีพที่ต้องการความถูกต้องของ สาระข้อเท็จจริง เพื่อจุดประสงค์ในด้านการศึกษาค้นคว้าหรือการนําไปปฏิบัติ เช่น การแปลฉลากยา ขั้นตอนการทดลอง คู่มือปฏิบัติการเป็นต้น นอกจากนี้ กฎหมายสนธิสัญญาระหว่างประเทศ รายงาน และเอกสารราชการต่าง ๆ ก็ใช้วิธีการแปลแบบตรงตัวเช่นกัน
การแปลสรุปความ หรือเอาความ (non-literal translation) – การแปลลักษณะนี้ ไม่ได้มุ่งรักษาโครงสร้าง ตามความหมายหรือรูปแบบของต้นฉบับอย่างเคร่งครัด มีการโยกย้ายขยายความหรือตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงรูปคําหรือไวยากรณ์ได้ การแปลลักษณะนี้นิยมใช้กับเรื่องที่ไม่จําเป็นต้องรักษาความถูกต้องแน่นอนของต้นฉบับ การแปลลักษณะนี้ใช้ในสื่อมวลชนทุกประเภทโดยเฉพาะเพื่อความบันเทิงผู้แปลอาจอ่านจบทีละย่อหน้า ทําความเข้าใจกับเนื้อหา วิธีคิด จุดมุ่งหมายของผู้เขียนและสิ่งที่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เมื่อสรุปเนื้อหาหลักของต้นฉบับแล้วจึงถ่ายทอดออกมาโดยเรียบเรียบใหม่ การแปลลักษณะนี้เป็นการแปลที่นิยมแพร่หลาย ตัวอย่างของการแปลลักษณะนี้ คือ การแปลนวนิยายเรื่องสั้น นิทาน บทวิทยุ โทรทัศน์
บริการแปลเอกสารราชการภาษาไทย และเอกสารอื่น ๆ ทุกประเภท
ประเภทเอกสารราชการ
รับแปลเอการราชการเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบหย่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบหย่า คร 7 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบทะเบียนหย่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบทะเบียนการหย่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสำคัญการหย่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสูติบัตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสูติบัตร ทร 1 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รุบแปลใบสูติบัตร ทร 19 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบเกิดเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลมรณบัตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนการสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองโสดเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองสถาณภาพสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบมรณบัตรบัตร ทร 4 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบมรณบัตรบัตร ทร 4 ตอน 1 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบตายเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการตายเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบขับขี่เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ สด 43 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ สด 9 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ สด 8 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนรถเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลคู่มือรถยนต์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลพาสปอร์ตเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือเดินทางเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสุทธิเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการเกิดเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการเกิดและสถานที่เกิดเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปล PASSPORT เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลโฉนดที่ดินเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนบ้านเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบรับรองโสดเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสำคัญการสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนราษฏ์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบัตรประชาชนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือเดินทางเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบรับรองแพทย์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองสถาณภาพทางครอบครัว คู่สมรส และบุตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองแพทย์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบตรวจโรคเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบชัณสูตรศพเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบเปลี่ยนนามสกุลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองสถานที่เกิดเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองบุตรบุญธรรมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนรับบุตรบุญธรรมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองความประพฤติเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการอุปการะบุตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการปกครองบุตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสำคัญการจัดตั้งนามสกุลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองความบุคคลคนเดียวกันเป็นภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว
รับแปลใบตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบมอบอำนาจเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือมอบอำนาจเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือยินยิมบุตรไปต่างประเทศเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือยืนยันความเป็นโสดเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัวเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อรองเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบัตรข้าราชการเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบันทึกการสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองความสัมพันธ์ครอบครัวเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองความสัมพันธ์การสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบันทึกคำให้การสถานภาพสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือให้ความยินยอมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหน้าวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลคำร้องเกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว แบบ ช 3 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล แบบ ช 5 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนสมรส คร 2 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลข้อมูลทะเบียนครอบครัวเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลคำยืนยันอิสรภาพเพื่อสมรสเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบบำเหน็จเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบบำนาญเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองเงินเดือนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองสถาณะพลเรือนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองที่อยู่อาศัยเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นภาษาฝรั่งเศส
ประเภทเอกสารวิชาการ
รับแปลงานวิจัยเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบทคัดย่อเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลวิทยานิพนธ์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานนาฏศิลป์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิทยาศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานคณิตศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานแพทย์ศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานเภสัชศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานครุศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานจิตวิทยาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานทันต์แพทย์ศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานนิติศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานนิเทศศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานบริหารธุรกิจเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานพยาบาลศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานสายดุริยางศิลป์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชีเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานเภสัชศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานรัฐศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานเศรษฐศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิศวกรรมศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานศิลปกรรมศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานสหเวชศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานภูมิสถาปัตยกรรมศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานสัตวแพทย์ศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานอักษรศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานบัณฑิตวิทยาลัยเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานทรัพยากรการเกษตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานประชากรศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานปิโตเลียมและปิโตรเคมีเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานนวิทยาศาสตร์สาธารณสุขเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานสถาบันการขนส่งเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานสาบันทรัพย์สินทางปัญญาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิจัยทรัพยากรทางน้ำเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิศวกรรมพันธุศาสตร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิจัยพลังงานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิจัยโลหะและวัสดุเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิจัยสภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานวิจัยสังคมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานเอเชียศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
ประเภทเอกสารทางการศึกษา
รับแปลใบรับรองการศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลเอกสารทางการศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองสถาณภาพนักศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบประกาศนียบัตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ รบ. เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ รบ. ปวช เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ รบ. ปวส เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแสดงผลการเรียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ TRANSCRIPT เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแสดงผลการเรียน ป 6 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแสดงผลการเรียน ม 3 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแสดงผลการเรียน ม 6 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแสดงผลการเรียน ปริญญาตรี เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแสดงผลการเรียน ปริญญาโท เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแสดงผลการเรียน ปริญญาเอก เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองสถาณภาพนักศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทรานสคริปต์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหลักฐานแสดงผลการเรียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปล Abstract เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบรับรองผลการศึกษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสภาวิชาชีพบัญชีเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลระเบียนแสดงผลการศึกษานอกโรงเรียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
ประเภทเอกสารอื่นๆ
รับแปลเรซูเม่เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลอีเมลล์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลกลอนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบทกวีเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลคำขวัญเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลเวปไซต์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปล ชื่อ-สกุล เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลยศทหารเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบทความเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสโลแกนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลยศตำรวจเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลเพลงสากลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือเรียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบทความนิตยสารเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบทความออนไลน์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลจดหมายสมัครงานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลจดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบทความหนังสือพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลรายการจดทะเบียนรถยนต์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลรายการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เป็นภาษาฝรั่งเศส
ประเภทเอกสารทางธุรกิจการค้า
รับแปลงบดุลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบปลิวเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสิทธิบัตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแจ้งหนี้เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลฉลากสินค้าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสำคัญรับเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ PO เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบวางบิลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบส่งสินค้าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสำคัญจ่ายเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบเสนอราคาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบลดหนี้เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบเพิ่มหนี้เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบเสร็จรับเงินเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนการค้าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงบกำไรขาดทุนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสโลแกนบริษัทเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลทะเบียนพาณิชย์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบจดทะเบียนบริษัทเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ บอจ 3 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ บอจ 5 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบ ภ.พ. 20 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปล ภ.ง.ด. 90 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปล ภ.ง.ด. 91 เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแจ้งค่าบริการเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลเอกสารทางบัญชีเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลรายงานการประชุมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือบริคณห์สนธิเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองบริษัทเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือคู่มือซอฟต์แวร์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือคู่มือการใช้สินค้าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการทำงานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือลางานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือลาคลอดบุตรเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลโบชัวร์ (แผ่นพับโฆษณา) เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลรายการเดินบัญชีธนาคารเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปล Statement เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสมุดบัญชีธนาคารเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองสถาณะทางการเงินเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบอนุญาตให้ดำเนินการกิจการเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือจัดตั้งสถานบริการเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการประกอบธุระกิจของคนต่างด้าวเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลข้อบังคับบริษัทเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือเชิญประชุมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลวาระการประชุมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลรายงานการประชุมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลบัตรพนักงานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาการจ้างงานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลแบบแจ้งการผลิตเพื่อขายหรือนำเข้าเพื่อขายเครื่องสำอางควบคุมเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองฮาลาลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือแต่งตั้งตัวแทนรับมอบอำนาจเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลเอกสารรับรองเงินเดือนเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสัญญาการโอนห้องชุดเป็นภาษาฝรั่งเศส
ประเภทเอกสารทางกฎหมาย
รับแปลคำสั่งศาลเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาเช่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบแจ้งความเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลงานกฎหมายเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาจ้างงานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาจ้างแรงงานเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาซื้อ-ขายเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาเช่าบ้านเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาเช่าที่เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาเช่าซื้อเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาซื้อขายเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาก่อสร้างเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลสัญญาทางธุรกิจเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือค้ำประกันเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือมอบอำนาจเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบรับรองการเสียภาษีเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลเอกสารหลักฐานทางคดีเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลคำพิพากษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือสัญญาให้เป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหนังสือรับรองคำพิพากษาเป็นภาษาฝรั่งเศส
ประเภทเอกสารยื่นขอวีซ่า
รับแปลเอกสารวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสมัครวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลผลวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลหน้าวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลตราประทับวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลใบสมัครวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปลผลการปฏิเสธวีซ่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
รับแปล Visa Application เป็นภาษาฝรั่งเศส
ลักษณะของภาษาในงานแปลที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
มีความชัดเจน คือเป็นภาษาที่มีลักษณะกระชับ ไม่ใช้คําที่ไม่จําเป็น รูปประโยคควรเป็นประโยคสั้น ๆ หลีกเลี่ยงโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน สลับที่ ใช้ข้อความที่แสดงความคิดได้แจ่มแจ้ง เช่น ประโยคเดียวแสดงความคิดเดียว ไม่กํากวมหรือชวนให้ตีความได้หลายแง่หลายมุม
มีความเหมาะสม ผู้แปลต้องเลือกใช้ลีลาการเขียนให้สอดคล้องกับลักษณะของเรื่องที่จะแปล เช่น ถ้าแปลนวนิยายก็อาจใช้สำนวนโวหารเหมาะๆ ให้เกิดภาพพจน์ได้ แต่ถ้าแปลงานด้านกฎหมายหรือการแพทย์ต้องใช้ศัพท์เฉพาะและลีลาการเขียนที่สั้นๆ ไม่ใช้คําหรูหราหรือสํานวนอ้อมค้อมแต่อย่างใด
มีความเรียบง่าย ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและสัมพันธ์กับความคิดที่กระจ่างแจ้งและต้องตรงตามต้นฉบับ
มีความสมเหตุสมผล ในภาษาแต่ละภาษา มีความสมเหตุสมผลต่างกัน ภาษาที่ใช้ก็ต้องให้มีความสมเหตุสมผลเท่าๆกับที่ภาษาต้นฉบับมีด้วย
A : Abkhazian, Abkhaz, Acholi, Afar, Afrikaans, Akan, Amharic, Albanian, Aramaic, Avar, Arabic, Acehnese, Adyghe, Alemannic, Anglo-Saxon,
Aromaniann, Apache, Armenian, Ashanti, Assamese, Assyrian, Aymara, Azerbaijani, Aragonese, Asturian, Alsatian,
B : Bambara, Bashkir, Bengali, Basque, Belarusian (Taraškievica), Buginese, Bhutani, Bihari, Bislama, Bosnian, Banyumasan, Belarusian, Buryat, Breton,
Bulgarian, Burmese, Byelorussian, Bavarian, Bishnupriya Manipuri,
C : Cambodian, Cantonese, Catalan, Cape, Corsican, Cebuano, Chewa, Chuvash, Canadian French, Chinese Simplified, Chinese Traditional,
Chamorro, Cherokee, Central Bicolano, Chavacano, Chechen, Cornish, Chuukese, Croatian, Czech, Cheyenne, Chichewa, Choctaw, Cree,
Crimean Tatar,
D : Danish, Dari, Dutch Low Saxon, Dinka, Divehi, Dutch, Dzongkha,
E : Edo, Efik, English, Extremaduran, Esperanto, Estonian, Emilian-Romagnol, European Portuguese, Ethiopian, Ewe, Erzya, English (UK),
F : Faroese, Farsi, Fiji, Fijian, Flemish, Finnish, French, Faroese, Fiji Hindi, Friulian, Fula, Fulani, Fulfulde, Frisian,
G : Ga, Gagauz, Gan, Gilaki, Gothic, Galician, Georgian, German, Greek, Greenlandic, Guarani, Gujarati, Goan Konkani,
H : Haitian, Hakka, Hausa, Herero, Haitian (Creole), Hawaiian, Ho, Hebrew, Hill Mari, Hindi, Hmong, Hungarian, Hiri Motu,
I : Ibibio, Icelandic, Igbo, Ido, Ilocano, Inuktitut, Irish, Inupiak, Indonesian, Interlingua, Italian,
J : Japanese, Javanese, Jamaican Patois,
K : Kanjobal, Kannada, Karen, Kashmiri, Kazakh, Kalmyk, Karachay-Balkar, Komi, Kurmanji (Northern Kurdish), Khmer, Kikuyu, Kinyarwanda, Kirghiz,
Kabardian, Kanuri, Karakalpak, Komi-Permyak, Kirundi, konkani, Korean, Kurdish, Kabyle, Kapampangan, Kashubian, Kuanyama,
L : Laotian, Latin, Latvian, Laos, Ligurian, Lombard, Luxembourgish, Lakota , Lebanese, Levantine, Lingala, Ladino, Latgalian, Limburgish, Low Saxon, Lithuanian, Luganda, Lak, Lezgian, Lojban, Lower Sorbian, Lutshootseed,
M : Macedonian, Malagasy, Malay, Maghrebi, Malayalam, Maltese, Mam, Manx, Min Dong, Mingrelian, Muscogee, Mandarin, Mandingo, Mandinka,
Maori, Marathi, Mongolian, Mazandarani, Min Nan, Mirandese, Maay Maayc, Marshallese, Mien, Mina, Moldovan, Moroccan, Maithili, Meadow Mari,
Minangkabau, Moksha, Manx Gaeli,
N : Navajo, Nepali, Ndonga, Norfolk, Northern Luri, Novial, Nuer, Nahuatl, Neapolitan, Norman, Northern Sami, Nuosu, Norwegian, Nauruan, Newar,
North Frisian, Northern Sotho, Nedebele,
O : Occitan, Old Church Slavonic, Oriya/Odia, Ossetian, Oromo, Ojibwe,
P : Papiamento, Pashto, philipine, Pali, Pennsylvania German, Pontic, Palewani (Sourthern Kurdish), Polish, Portuguese, Palatinate German, Pangasinan,
Picard, Brazilian Portuguese, Persian (Farsi), Pulaar, Persian, Punjabi, Paraguayan, Piedmontese, Pidgin,
Q : Quechua, Quiche,
R : Romanian, Ripuarian, Rusyn, Russian, Romani, Rwanda, Romansh,
S : Sami, Samoan, Sangro, Sanskrit, Sara, Serbian, Serbo, Sesotho, Setswana, Slovenian, Somali, Sorani, Scots, Silesian, Sranan, Swiss French, Seneca,
Shona, Sichuan, Sicilian, Sindhi, Slovenian, Sinhalese, siswati, Slovak, Slovene, Soninke, Sakha, Samogitian, Scottish Gaelic, Southern Azerbaijani, Swati,
Swiss Italian, Sepedi, Sotho, Spanish, Spanish (Latin-america), Sundanese, Swahili, Swedish, Sango, Sardinian, Saterland Frisian, Shanghainese, Sranan,
Syriac, Sorani (Central Kurdish),
T : Tagalog, Tahitian, Taiwanese, Tamazight, Tamil, Tatar, Tajik, Tigrinya, Tumbuka, Telugu, Teochew, Tetun, Thai, Tibetan, Tigrinya, Tarantino, Tok Pisin,
Tuvan, Tongan, Tshiluba, Tsonga, Turkish, Turkmen, Twi, Tetum, Tswana,
U : Uighur, Ukrainian, Uyghur, Urdu, Udmurt, Upper Guinea Creole, Uzbek, Upper Sorbian,
V : Welsh, Waray, West Frisian, Wolof, West Flemish, Walloon, Wu,
W : xhosa,
X : Yiddish, Yoruba, Yi,
Y : Yiddish, Yoruba, Yi,
Z : Zulu, Zeelandic, Zazaki, Zhuang,
รับรองเอกสารโดยกระทรวงต่างประเทศ กรมการกงสุล หรือนิติกรณ์ไทยบริการรับรองเอกสารโดยกระทรวงต่างประเทศ กรมการกงสุล หรือนิติกรณ์ไทย บริการรับรองเอกสารทั่วโลก ผ่านระบบอีเมลล์หรือไปรษณีย์ระหว่างประเทศ
ประเภทการรับรองเอกสาร
รับรองเอกสารโดยกระทรวงต่างประเทศ
รับรองเอกสารโดยกงสุลไทย
รับรองเอกสารโดยกรมการกงสุล
รับรองเอกสารโดยนิติกรณ์ไทย
รับรองโดยทนายความ
รับรองโดย Certified Translator
รับรอง Certified Correct Translation
รับรอง Certified True Copy
รับรองโดยสถานทูตของประเทศต่างๆ
รับรองโดยบริษัท หรือผู้แปลเอกสาร
รับรองโดยหน่วยงานทางราชการอื่น ๆ
รับรองโดยผู้เชี่ยวชาญศาลยุติธรรม
เอกสารที่จะนำไปใช้ที่ศาลยุติธรรมไทย เอกสารที่แปลมาจากภาษาอังกฤษและจีน หากจะนำไปใช้ที่ศาลไทยต้องผ่านการแปลและรับรองโดย ผู้เชี่ยวชาญศาลยุติธรรมก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งทางเรามีบริการในส่วนนี้ ลูกค้าสามารถโทรสอบถามได้
การรับรองเอกสารโดยกระทรวงต่างประเทศ
เอกสารไทยนำไปใช้ต่างประเทศ ลูกค้าท่านใดที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ควรนำเอกสารส่วนตัวของท่านมาดำเนินเรื่องเพื่อขอรับรองเอกสารจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศของไทยก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในต่างประเทศได้ โดยลูกค้าสามารถแปลเอกสารดังกล่าวได้เอง โดยดูตัวอย่างจากเวปไซต์ของกรมการกงสุล www.consular.go.th หรือหากลูกค้า ต้องการความสะดวก ถูกต้อง รวดวเร็ว ติดต่อบริษัท NYC Visa&Translation Service ของเรา สำหรับลูกค้าที่ต้องรีบเดินทางไปต่างประเทศ ท่านสามารถนำเอกสารดังกล่าว ไปแปลที่ต่างประเทศและให้สถานทูตไทยในประเทศนั้นๆ รับรองเอกสารให้ได้ แต่ทางเรา ขอเตือนว่า ท่านอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เมืองไทย 2-3 เท่า
เอกสารต่างประเทศนำมาใช้ในไทย ลูกค้าท่านใดมีเอกสารจากต่างประเทศที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย ต้องนำเอกสารดังกล่าว มาดำเนินเรื่องขอรับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศของไทยก่อน จึงจะสามารถนำเอกสารดังกล่าวมาใช้กับหน่วยงานรัฐบาลของไทยได้ โดยมีขั้นตอนเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กล่าวไปในหัวข้อแรกคือ เอกสารดังกล่าว ต้องผ่านการรับรองจากสถานทูตของประเทศเจ้าของเอกสารในไทยก่อนว่า เอกสารดังกล่าวมาจากประเทศดังกล่าวจริง ทางกระทรวงต่างประเทศของไทยจึงจะทำเรื่องรับรองเอกสารดังกล่าวให้
ระยะเวลาดำเนินการ
ทั่วไป ใช้เวลา 5 วันทำการ ไม่นับวันยื่นเอกสาร (ไม่รวมระยะเวลาในการจัดส่งเอกสาร)
เร่งด่วน ใช้เวลา 2 วันทำการ วันเดียวกันกับวันยื่นเอกสาร (ค่าธรรมเนียมรัฐเพิ่มสองเท่า)
เวลาข้างต้นสำหรับลูกค้าที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
เวลาข้างต้นนี้ ไม่นับรวม ระยะเวลาที่บริษัทฯ รอเอกสารครบทั้งหมดของลูกค้า, ระยะเวลาแปลและระยะเวลาส่งเอกสารทางไปรษณีย์ ทางเราจะแจ้งระยะเวลาโดยประมาณให้ท่านทราบ)
ระยะเวลาที่บริษัทฯ ต้องใช้เพื่อดำเนินการโดยประมาณอยู่ที่ 10-15 วันทำการ (ระยะเวลานี้นับรวมตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งลูกค้าได้รับเอกสารคืน)
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรองเอกสารโดยกระทรวงต่างประเทศ
การรับรองเอกสารแบ่งเป็น 3 ประเภทได้แก่
1. การรับรองคำแปล
1.1 คำแปลเอกสารภาษาไทยเป็นอังกฤษ
1.2 คำแปลเอกสารภาษาอังกฤษเป็นไทย
1.3 คำแปลเอกสารภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย และเอกสารภาษาไทย เป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
2. การรับรองลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามในเอกสาร
3. การรับรองสำเนาเอกสารที่หน่วยงานราชการไทยออกให้
รายละเอียดของการรับรองเอกสารแต่ละประเภทมีดังนี้
1. การรับรองคำแปล
1.1 การรับรองคำแปลเอกสารภาษาไทยเป็นอังกฤษ ได้แก่
เอกสารการทะเบียนราษฎรและเอกสารเกี่ยวกับบุคคล เช่น สูติบัตร มรณบัตร บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวคนต่างด้าว ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ฯลฯ
เอกสารการทะเบียนครอบครัว เช่น ใบสำคัญการสมรส ทะเบียนสมรส ใบสำคัญแสดงการหย่า ทะเบียนหย่า ทะเบียนรับบุตรบุญธรรมหนังสือรับรอง (ความเป็นโสด) ที่อำเภอออกให้ ฯลฯ (ทะเบียนราษฎรและทะเบียนครอบครัวเป็นแบบฟอร์มมาตรฐานของทางราชการ ท่านที่สามารถแปลได้ด้วยตนเอง ขอรับแบบฟอร์มคำแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษได้ที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ หรือ www.mfa.go.th/web/804.php)
เอกสารการทะเบียนและเอกสารที่เกี่ยวกับนิติบุคคล เช่น ทะเบียนนิติบุคคล ใบทะเบียนการค้า ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนบริษัท หนังสือบริคณห์สนธิรายชื่อผู้ถือหุ้น รายงานการตรวจสอบบัญชี งบดุล ใบเสร็จการชำระภาษี ฯลฯ
เอกสารการศึกษา เช่น ใบสุทธิ ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร หนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษา ฯลฯ ทั้งนี้ หากเป็นเอกสารที่ออกโดยสถาบันการศึกษาของเอกชนต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการก่อน หรือมิเช่นนั้น สถาบันการศึกษาดังกล่าวต้องจัดส่งตัวอย่างลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามมาให้กรมการกงสุล กองสัญชาติและนิติกรณ์ ทราบเป็นการล่วงหน้า หากเป็นการรับรองสำเนาเอกสารการศึกษา จะต้องให้สถาบันการศึกษารับรองในสำเนานั้นเสียก่อน
เอกสารอื่น ๆ เช่น ใบอนุญาตจัดหางานไปทำงานต่างประเทศ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ฯลฯ
1.2 การรับรองคำแปลเอกสารภาษาอังกฤษเป็นไทย ได้แก่ เอกสารการทะเบียนราษฎรและเอกสารเกี่ยวกับบุคคล เช่น สูติบัตร มรณบัตร บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ฯลฯการยื่นคำร้อง
กรอกคำร้องตามแบบฟอร์มที่กำหนดพร้อมแนบเอกสารดังต่อไปนี้
ต้นฉบับภาษาไทย พร้อมสำเนา 1 ชุด
ต้นฉบับคำแปลภาษาอังกฤษ
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
หากยื่นแทนเจ้าของเอกสารต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตร ประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ และหรือสำเนาพาสปอร์ต
2. การรับรองลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามในเอกสาร ได้แก่
2.1 เอกสารทางการค้า เช่น ใบกำกับราคาสินค้า (invoice) ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Orgin -C/O)ฯลฯ ต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงพาณิชย์หรือหอการค้าไทย หรือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยก่อน
2.2 เอกสารทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองการเงินที่ออกโดยธนาคารและลงนามโดยผู้มีอำนาจของธนาคารที่ออกเอกสารนั้น
2.3 หนังสือมอบอำนาจ (ในนามบริษัท) ผู้มอบอำนาจต้องเป็นกรรมการบริษัทผู้มีอำนาจลงนามตามที่ระบุในหนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ และต้องมาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่
2.4 หนังสือมอบอำนาจ (ส่วนบุคคล) ผู้มอบอำนาจต้องมาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่
2.5 หนังสือรับรองอื่น ๆ อาทิ หนังสือรับรองผลการวิเคราะห์สินค้า และหนังสือรับรองความประพฤติ ต้องเป็นเอกสารซึ่งออกหรือผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับใบตรวจโรคหรือใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่มี ตัวอย่างลายมือชื่อให้กองสัญชาติฯ ตรวจสอบ ต้องนำเอกสารดังกล่าวไปให้แพทยสภารับรองก่อน
การยื่นคำร้อง
กรอกคำร้องตามแบบฟอร์มที่กำหนด พร้อมแนบเอกสารดังต่อไปนี้
เอกสารที่ต้องการรับรอง
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของเจ้าของเอกสาร
หากเป็นเอกสารของบริษัทต้องมีหนังสือรับรองบริษัทที่กระทรวงพาณิชย์ ออกให้ หากยื่นแทนเจ้าของเอกสารต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
ค่าธรรมเนียม
บริการปกติ ฉบับละ 400 บาท บริการด่วน ฉบับละ 800 บาท
3. การรับรองสำเนาเอกสารที่หน่วยงานราชการไทยออกให้
เอกสารการทะเบียนราษฎรและเอกสารเกี่ยวกับบุคคล เช่น สูติบัตร มรณบัตร บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ฯลฯ
เอกสารการทะเบียนครอบครัว เช่น ใบสำคัญการสมรส ทะเบียนสมรสใบสำคัญแสดงการหย่า หนังสือรับรองความเป็นโสด ฯลฯ
เอกสารการทะเบียนและเอกสารที่เกี่ยวกับนิติบุคคล เช่น ทะเบียนนิติบุคคล ใบทะเบียนการค้า ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนบริษัท หนังสือบริคณห์สนธิ ฯลฯ
เอกสารการศึกษา เช่น ใบสุทธิ ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร และหนังสือรับรองสถาบันการศึกษา ฯลฯ
การยื่นคำร้อง
กรอกคำร้องตามแบบฟอร์มที่กำหนด พร้อมแนบเอกสารดังต่อไปนี้
ต้นฉบับเอกสารที่ต้องการรับรอง พร้อมสำเนา 1 ชุด
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หากยื่นแทนเจ้าของเอกสารต้องมีหนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
วิธีการเลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารที่มีคุณภาพ
เลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารที่มีสำนักงานเป็นหลักแหล่งแน่นอน
เลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารมีประวัติการดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 10 ปี
เลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารที่มีความน่าเชื่อถือ
เลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารที่มีทีมงานนักแปลเจ้าของภาษามืออาชีพ
เลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารที่สามารถป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลได้
เลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารที่มีประสบการณ์ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก
เลือกผู้ให้บริการรับแปลเอกสารมืออาชีพ เลือก iLC (International Language Center)
ศูนย์แปลภาษา iTS (Immigration and Translation Service) Thailand
ให้บริการ รับแปลเอกสาร NAATI และรับรองเอกสาร NAATI เพื่อนำไปใช้ทำธุรกรรมต่างๆที่ประเทศออสเตรเลีย
การรับรองเอกสาร Naati คืออะไร การรับรองเอกสาร National Accreditation Authority for Translators and Interpreters Ltd. หรือ Naati คือการรับรองเอกสารรูปแบบหนึ่ง ที่จะนิยมแปลและรับรองกันเพื่อนำไปใช้ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยองค์กร Naati ของประเทศออสเตรเลีย จะจัดสอบเพื่อออก license ให้ผู้แปล ในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย
บริการ แปลเอกสาร NAATI
ในอดีตลูกค้าจำนวนไม่น้อย ที่ต้องการแปลเอกสาร NAATI จะต้องไปติดต่อกับนักแปล NAATI ที่ต่างประเทศ เพื่อขอใ้ช้บริการ ซึ่งข้อเสีย แน่นอนก็คือ ค่าใช้จ่ายสูง ติดต่อยาก และเสียเวลานาน บริษัท แปลเอกสาร ทราบถึงความไม่สะดวกสบายของลูกค้าในจุดนี้ดี จึงจัดการให้มีตราประทับรับรอง Naati ขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าได้ใ้ช้บริการอย่างสะดวก สบาย และ ที่สำคัญ ประหยัดกว่า
ลูกค้าประเภทใด ที่ติดต่อเพื่อขอรับบริการ รับรองเอกสาร NAATI กับเราได้บ้าง
ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศสามารถ ติดต่อเพื่อขอรับบริการแปลเอกสาร NAATI กับเราได้ เพราะ ตราประทับเป็นที่ยอมรับ รับรองได้ทั่วโลกอยู่แล้ว อยู่ที่ใด ก็ใช้บริการได้เหมือนกัน
“ในปัจจุบัน มีลูกค้าจากต่างประเทศติดต่อเราเข้ามาตลอด เพราะการจ้างแปล NAATI ในประเทศไทยนั้น จะมีราคาถูกกว่า และเรามีบริการ ที่สะดวกสบาย จัดส่งเอกสารไปให้ท่านที่ต่างประเทศได้”
การรับรองเอกสาร NAATI คืออะไร : การรับรองเอกสาร National Accreditation Authority for Translators and Interpreters Ltd. หรือ NAATI คือการรับรองเอกสารรูปแบบหนึ่ง ที่จะนิยมแปลและรับรองกันเพื่อนำไปใช้ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยองค์กร Naati ของประเทศออสเตรเลีย จะจัดสอบเพื่อออก license ให้ผู้แปล ในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย ชมรายละเอียดของการแปลและรับรองเอกสาร Naati เพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.naati.com.au หากท่านได้รับการร้องขอให้มีการแปลเอกสาร และรับรองเอกสาร NAATI ท่านสามารถนำมาให้ทางบริษัทของเราดำเนินการแปล และรับรองได้ เราดำเนินการในรูปแบบ บริษัทจำกัด ให้บริการรับรองเอกสาร NAATI ของแท้ น่าเชื่อถือไว้ใจได้ ในราคายุติธรรม รวดเร็ว ทันใจ ไม่ต้องติดต่อไปต่างประเทศให้เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายแพง
บริการ แปลเอกสาร NAATI ของ iTS (International Translation Services) ดีอย่างไร :ในอดีตลูกค้าจำนวนไม่น้อย ที่ต้องการแปลเอกสาร NAATI จะต้องไปติดต่อกับนักแปล NAATI ที่ต่างประเทศ เพื่อขอใ้ช้บริการ ซึ่งข้อเสีย แน่นอนก็คือ ค่าใช้จ่ายสูง ติดต่อยาก และเสียเวลานาน บริษัท แปลเอกสาร คิงทรานสเลชั่น ทราบถึงความไม่สะดวกสบายของลูกค้าในจุดนี้ดี จึงจัดการให้มีตราประทับรับรอง NAATI ขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าได้ใ้ช้บริการอย่างสะดวก สบาย และ ที่สำคัญ ประหยัดกว่า
เราดำเนินการในรูปแบบ บริษัท ให้บริการแปลและรับรองเอกสาร Naati ที่ถูกต้องไว้ใจได้
บริการของเรา รวดเร็ว ทันใจ ถูกต้อง ฉับไว เชื่อถือได้ เหมือน ทุกๆ บริการแปลและรับรองเอกสาร ของเราที่ผ่านมา
ลูกค้าประเภทใด ที่ติดต่อเพื่อขอรับบริการ รับรองเอกสาร NAATI กับเราได้บ้าง : ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศสามารถ ติดต่อเพื่อขอรับบริการแปลเอกสาร NAATI กับเราได้ เพราะ ตราประทับเป็นที่ยอมรับ รับรองได้ทั่วโลกอยู่แล้ว อยู่ที่ใด ก็ใช้บริการได้เหมือนกัน “ในปัจจุบัน มีลูกค้าจากต่างประเทศติดต่อเราเข้ามาตลอด เพราะการจ้างแปล NAATI ในประเทศไทยนั้น จะมีราคาถูกกว่า และเรามีบริการ ที่สะดวกสบาย จัดส่งเอกสารไปให้ท่านที่ต่างประเทศได้ ”
หากท่านต้องการจะใช้บริการ รับแปลเอกสาร Naati ของเรา ต้องทำอย่างไร : ท่านสามารถติดต่อและส่งเอกสาร เข้ามาหาเราได้ตามปกติ หลายช่องทางการติดต่อ และแจ้งความจำนงเข้ามาถึงบริการที่ท่านต้องการใช้ เมื่อได้รับเอกสารแล้ว เราจะดำเนินการแจ้งรายละเอียดทั้งหมดกลับไปให้ท่านเพื่อดำเนินการให้บริการต่อไป
ทำไมจึงต้องเลือกแปล NAATI กับ iLC (International Language Center)
บริการแปลเอกสารภาษาอังกฤษ - ไทย ดำเนินงานโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านซึ่งได้รับใบอนุญาตการประกอบอาชีพ แปลเอกสารและล่ามจากประเทศออสเตรเลีย (NAATI - National Accreditation Authority for Translators and Interpreters) สามารถตรวจสอบใบอนุญาต ได้ที่ https://www.naati.com.au/ ดังนั้นเอกสารแปล NAATI สามารถนำไปใช้กับหน่วยงานราชการและเอกชนในประเทศออสเตรเลียได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศหรือสถานทูต
ชิ้นงานคุณภาพ นอกจากเอกสารแปลจะได้รับการรับรองการแปลที่ถูกต้องของ NAATI แล้ว เอกสารต้นฉบับที่ถูกทำสำเนาจะได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจาก Justice of the Peace ด้วย (เฉพาะสาขาในไทยเท่านั้น)
เราเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าเป็นความลับ เรามีการเก็บประวัติลูกค้าไว้ในระบบของบริษัทก่อนให้บริการเสมอ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าทางเราจะไม่ส่งเอกสารสำคัญที่เป็นข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากับบุคคลอื่น หากมีบุคคลอื่นขอรับเอกสารแปลแทนจะต้องได้รับการยืนยันจากทางลูกค้าก่อนเสมอ
ตรงต่อเวลา เราส่งมอบงานแปลให้ลูกค้าตามมาตรฐานเวลาที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อให้ลูกค้านำงานแปลไปใช้ต่อได้อย่างตรงเวลา
ประเภทงานแปลที่ให้บริการ
แปลเอกสารราชการสำคัญต่างๆ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สูติบัตร ใบรับรองโสดประเทศต่างๆ ทะเบียนสมรส ใบหย่า
ใบประกาศนียบัตร และใบรับรองต่างๆ
แปลเอกสารสัญญาต่างๆ อาทิเช่น สัญญาซื้อขาย เช่าซื้อ สัญญารับเหมา และอื่นๆ
แปลเอกสารคู่มือการใช้งานทุกประเภท อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
แปลจดหมายธุรกิจ จดหมายส่วนตัว จดหมายเพื่อไว้ติดต่อกับหน่วยราชการต่างๆ
แปลงานข่าว งานบทความ วิทยานิพนธ์ หรืออื่นๆ ตามความต้องการ
แปลงานกฎหมาย งานเคมี วิศวกรรม และงานเทคนิคอื่นๆ
แปลงานด้านทางการแพทย์ เภสัชกร และสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
งานแปลเอกสารต่างๆตามความจำเป็น
ทนายความโนตารี พับลิค รับรองเอกสาร รับรองลายมือชื่อ รับรองบุคคล รับรองคำแปล รับรองเอกสารเพื่อนำไปใช้ในต่างประเทศFind a Notary Public in Thailand outside service any where any time as you requested please call us 094-8948999 Line ID: @iTranslation บริการด้านรับรองเอกสารของโนตารี พับลิค Notary Public
รับรองเอกสารเพื่อบังคับใช้ในอีกประเทศหนึ่ง เพื่อใช้ในต่างประเทศ
รับรองเอกสาร รับรองใบสมัคร เพื่อเรียนต่อต่างประเทศ Affidavit of support /Sponser Notarization
รับรองสำเนาเอกสาร Certified true copy
รับรองสถานะการเงิน Statement Notarization
รับรองคำแปล แปลเอกสาร Certified true translation
รับรองลายมือชื่อ รับรองบุคคล กรรมการนิติบุคคล บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนSignature Notarization and Legalization
รับรองข้อเท็จจริง Marine protest Notary Public
รับรองความมีอยู่จริงของเอกสาร
รับรองการทำสัญญาระหว่างเอกชน Contract Agreement Notary Public
รับรองคำสาบาน Applicant Declaration
รับรองคำให้การ Declaration Notary Public
รับรองหนังสืออนุญาตจากผู้ปกครอง Letter of Authorization for Travel / Custodianship declaration-Parents / Guardians Notary Public
รับรองลายมือชื่อกรรมการ บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด เพื่อยื่นต่อกรมพัฒนา ธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
อื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนดอัตราค่าบริการ Notary Public 's Fee
รับรองเอกสารโนตารี พับลิค
รับรองลายมือชื่อ
รับรองลายมือชื่อ notarized-legalized ต่อกรมกงสุลและนิติกรณ์ไทย
รับรองลายมือชื่อกรรมการบริษัทมหาชน
E-mail :Notary@ilc.ltd (สนใจสอบถามอัตราค่าบริการ ได้ที่ 094-8958999 Line ID : @iTranslation)
โนตารี พับลิค (Notary Public) หรือ โนตาเรียล เซอร์วิส แอทโทนี่ (Notarial Services Attorney)ในประเทศไทย คืออะไร Notary Public หรือ Notarial services Attorney ในต่างประเทศหมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งจากทางราชการของประเทศนั้นๆ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ มีหน้าที่ในการจัดทำสัญญา รับรองลายมือชื่อในเอกสาร ลงชื่อในฐานะเป็นพยานใน เอกสาร รับรองเอกสารนั้นๆ ว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริงจากต้นฉบับ ให้ทำคำสาบาน หรือทำหน้าที่อื่นๆ ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้และตามหลักปฏิบัติของประเทศนั้นๆ ส่วนมากเอกสารเหล่านั้นจะนำไปใช้ในต่างปรเทศ หรือสถานฑูตประจำประเทศไทย
ในประเทศไทยทนายความที่ได้รับใบอนุญาตจากสภาทนายความ และได้รับอนุญาตให้ทำรับรองลายมือชื่อ และเอกสารจากสภาทนายความ เป็นผู้ทำหน้าที่ Notary Public หรือ Notarial services Attorney โดยสภาทนายความ (The Lawyers council Of Thailand)ได้ออกข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อ และเอกสาร พ.ศ. 2551 และระเบียบว่าด้วยการขึ้นทะเบียนทนายความ ผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร พ.ศ. 2552 พร้อมกับเปิดอบรมหลักสูตรทนายความ ผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร ให้แก่ทนายความเพื่อเป็นผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อ และเอกสาร
หน้าที่ของ Notary Public หรือ Notarial services Attorney ดังนี้
รับรองลายมือชื่อในเอกสาร
รับรองนิติกรรมที่เอกชนทำขึ้น
รับรองคำแปลเอกสาร
รับรองข้อเท็จจริง
รับรองสำเนาเอกสาร
รับรองความมีอยู่ของเอกสาร
จัดทำคำสาบาน
จัดทำบันทึกคำให้การ
ทำคำคัดค้านตราสาร
รับรองตัวบุคคล
ทำหน้าที่อื่นที่กฎหมายกำหนด
การปฎิบัติหน้าที่ของทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสารตามแนวทางสภาทนายความ มีดังนี้ ทนายความผู้ทำคำรับรองต้องไม่เลือกปฎิบัติ ปฎิบัติหน้าที่ได้เพียงในฐานะพยานรู้เห็นข้อเท็จจริงเท่านั้น การรับรองลายมือชื่อต้องให้ผู้ลงลายมือ ชื่อมาแสดงตัวต่อหน้า และต้องตรวจสอบเอกสารเพื่อยืนยันตัวบุคคล ทนายความผู้ทำคำรับรองต้องให้ความสำคัญแก่ข้อเท็จจริงและเอกสาร ที่ตรวจสอบยิ่งกว่าวิญญูชนทั่วไป และต้องไม่เปิดเผยข้อมูล หรือความลับที่ตนได้รับมาเนื่องจากการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ทำคำรับรอง ดังนั้น การรับรองลายมือชื่อ หรือรับรองเอกสาร หรือจัดทำเอกสารคำรับรองเพื่อนำเอกสารหรือสำเนาเอกสารเหล่านั้นไปใช้ จึงต้องทราบวัตถุประสงค์ ประโยชน์ และหน้าที่ของNotary Public หรือ Notarial Services Attorney จึงจะได้ประโยชน์ ตามความต้องการของผู้รับการรับรอง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ของแต่ละประเทศ from Wikipedia, the free encyclopedia A notary public (or notary or public notary) is a public officer constituted by law to serve the public in non-contentious matters usually concerned with estates, deeds, powers-of-attorney, and foreign and international business. A notary's main functions are to administeroaths and affirmations, take affidavits and statutory declarations,witness and authenticate the execution of certain classes of documents, take acknowledgments of deeds and other conveyances, protest notes and bills of exchange, provide notice of foreign drafts, prepare marine protests in cases of damage, provide exemplifications and notarial copies, and perform certain other official acts depending on thejurisdiction.[1] Any such act is known as a notarization. The term notary public only refers to common-law notaries and should not be confused with civil-law notaries. With the exceptions of Louisiana, Puerto Rico, Quebec, whose private law is based on civil law, and British Columbia, whose notarial tradition stems from scrivener notary practice, a notary public in the rest of the United States and most of Canada has powers that are far more limited than those of civil-law or other common-law notaries, both of whom are qualified lawyers admitted to the bar: such notaries may be referred to as notaries-at-law or lawyer notaries. Therefore, at common law, notarial service is distinct from the practice of law, and giving legal advice and preparing legal instruments is forbidden to law notaries.
ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร มีหน้าที่ดังนี้
รับรองนิติกรรมที่เอกชนทำขึ้น
รับรองคำแปลเอกสาร
รับรองข้อเท็จจริง
รับรองสำเนาเอกสาร
รับรองความมีอยู่ของเอกสาร
จัดทำคำสาบาน
จัดทำบันทึกคำให้การ
ทำคำคัดค้านตราสาร
รับรองตัวบุคคล,รับรองลายมือชื่อในเอกสาร
ทำหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด
การปฏิบัติหน้าที่ของทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร
ทนายความผู้ทำคำรับรอง จะถือว่างานในหน้าที่นี้เป็นการบริการต่อสาธารณชน จึงต้องให้บริการโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ
ในการปฏิบัติหน้าที่ทนายความผู้ทำคำรับรอง จะทำหน้าที่ในฐานะพยานรู้เห็นโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และไม่เห็นแก่เงินสินจ้างหรือค่าตอบแทนเว้นแต่ค่าธรรมเนียมตามสมควรหรือตาม ที่กฎหมายหรือข้อบังคับหรือระเบียบของสภาทนายกำหนดไว้
ในการรับรองลายมือชื่อของบุคคลหรือคำสาบานของบุคคล ทนายความผู้ทำคำรับรอง จะต้องให้ผู้ลงลายมือชื่อหรือให้คำสาบานมาปรากฏตัวด้วยตนเองและจะต้องตรวจ สอบบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลนั้นๆ รวมทั้งความสมัครใจและต้องให้แน่ใจว่าบุคคลที่จะลงลายมือชื่อหรือให้คำสาบาน ตนนั้นทราบถึงความสำคัญของการลงลายมือหรือคำสาบานนั้นด้วย
ทนายความผู้ทำคำรับรอง จะต้องไม่ออกคำรับรองเท็จ หรือคำรับรองที่ไม่ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรือธุรกรรมใดๆ ที่เป็นเท็จมีลักษณะหลอกลวงหรือฉ้อฉล
ทนายความผู้ทำคำรับรอง จะต้องให้ความสำคัญแก่ความถูกต้องของข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบได้โดยเอกสารและ การกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่าความต้องการหรือความคาดหวังของบุคคลที่มา ขอให้ทำคำรับรอง
ทนายความผู้ทำคำรับรอง พึงกระทำการเฉพาะในสิ่งที่เป็นอำนาจหน้าที่โดยเฉพาะเจาะจงของตนเท่านั้น ไม่พึงก้าวล่วงไปให้คำแนะนำหรือทำคำรับรองนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย หรือตามประเพณีปฏิบัติเกี่ยวกับงานในอำนาจหน้าที่ทนายความผู้ทำคำรับรอง
ในกรณีที่ต้องใช้ตราประทับ ทนายความผู้ทำคำรับรองจะต้องระมัดระวังเก็บรักษาดวงตราไว้เพื่อการรับรองโดย เคร่งครัด และต้องไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นใดนำดวงตราดังกล่าวไปใช้เพื่อการใดๆ โดยเด็ดขาด
ในการปฏิบัติหน้าที่ทนายความผู้ทำคำรับรอง จะต้องทำการบันทึกและเก็บสำเนาเอกสารการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความผู้ทำ คำรับรอง ในสมุดบันทึกงานทุกรายการ และต้องเก็บรักษาสมุดบันทึกดังกล่าวไว้ที่สำนักงานของตน หรือในที่ปลอดภัยอื่นๆ
ทนายความผู้ทำคำรับรอง พึงต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลของผู้ที่มาใช้บริการ และจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือความลับที่ตนได้รับมาเนื่องจาก หน้าที่ทนายความผู้ทำคำรับรองเพื่อการใดๆ เว้นแต่ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความผู้ทำคำรับรองหรือมี กฎหมายหรือคำสั่งศาลให้เปิดเผยได้
ทนายความผู้ทำคำรับรอง จะปฏิบัติหน้าที่เมื่อได้รับการร้องขอเท่านั้น และต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือประเพณีที่มีอยู่ในขณะนั้น
ตรวจประวัติพนักงาน ตรวจประวัติคดีอาญา
จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมหลายรูปแบบ โดยจากสถิติประวัติอาชญากรรมที่ตรวจพบในปี 2006 - 2011 จากผู้สมัครงาน 84,000.- คน พบบุคคลที่มีประวัติความผิดประมาณ 8 % โดยแบ่งความผิดประเภทต่างๆ ดังนี้
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 42.68%
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ (ปล้น/จี้) 15.26%
ความผิดเกี่ยวกับการพนัน 12.10%
ความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย 6.54%
ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจรในเรื่องเมาแล้วขับ 4.01%
ความผิดเกี่ยวกับเพศ 2.68%
ความผิดต่อชีวิต (ฆาตกรรม) 1.61%
ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ (ลักพาตัว เรียกค่าไถ่) 0.14%
การกระทำความผิดอื่นๆ 14.91%
ปัจจุบันองค์กรหรือผู้ประกอบการหลายแห่งโดยเฉพาะบริษัทที่ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมการผลิต บริษัทจัดส่งสินค้า Logistic ห้างสรรพสินค้า บริษัทประกันภัย ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์/เงินทุน โรงแรม สำนักงานทนาย บริษัทบริการซีคิวริตี้ ได้กำหนดให้มีมาตรการการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพนักงานก่อนรับเข้าทำงานหรือผ่าน ทดลองงาน ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงภัย ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย นับว่าเป็นการสร้างความรู้สึกปลอดภัยภายในองค์กรและต่อลูกค้า การตรวจสอบประวัติอาชญกรรม มี 2 วิธี คือ
การตรวจสอบด้วยลายพิมพ์นิ้วมือ
การตรวจสอบด้วยชื่อและชื่อสกุล
บริการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
เป็นหน่วยงานอิสระขององค์กรที่ดำเนินงานการตรวจสอบฯ โดยเฉพาะ
ดำเนินการตรวจสอบประวัติผู้สมัครงานหรือพนักงานทุกระดับด้วยมาตรฐานเดียวกัน
ดำเนินการตรวจสอบประวัติฯ ได้ 100% ของผู้สมัครงานทั้งหมดหรือบางตำแหน่งงานตามนโยบายขององค์กร
ปฏิบัติงานเป็นระบบด้วย โปรแกรมที่เขียนขึ้นมารองรับงานตรวจสอบฯ
องค์กรจะได้รับทราบสถิติและรายงานการวิเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อกำหนดนโยบายขององค์กรต่อไป
การสำรองจ่ายค่าบริจาคแก่กองทะเบียนตรวจสอบประวัติอาชญากร
องค์กรสามารถตรวจสอบและประเมินผลงานบริการของบริษัทฯ ได้
iLC (International language Center) เราคือตัวแทน (Mandate/Agency) ในการดำเนินการขอหนังสือรับรองความประพฤติ(Police clearance certificate) สำหรับประชาชนทั่วไปที่ประสงค์จะขอหนังสือรับรองความประพฤติ(a good conduct) หรือหนังสือรับรองประวัติอาชญากรรม (The criminal Records Check) จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีพิเศษ เร่งด่วน(กรณีผู้ประสงค์ไปต่างประเทศเท่านั้น) พร้อมมีบริการจัดส่งกลับไปให้ท่านโดย FedEx /DHL/ (กรณีจัดส่งในประเทศโดย EMS) ในบริการที่รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย
ทำไมต้องใช้บริการของเรา ?
ส่งกับเราเอกสารไม่หายแน่นอน เพราะติดต่อง่าย ตรวจสอบได้
จัดเตรียมเอกสารไม่ยุ่งยาก สะดวก รวดเร็ว ลดขั้นตอน ปรึกษาได้ ไร้กังวล
ประหยัดค่าธรรมเนียมโอนเงินจากต่างประเทศ เพราะให้ญาติในไทยโอนแทนได้
ประหยัดค่าจัดส่งเอกสารจากต่างประเทศ เพราะแค่ส่งเอกสารมาทางอีเมล์(กรณีคนไทย)
รวมค่าธรรมเนียมทุกอย่างแล้ว ยกเว้นค่าจัดส่งกลับโดย FedEx/DHL
สะดวกรวดเร็วกว่าแน่นอน พรัอมจัดส่งกลับไปยัง ประเทศที่ท่านพำนักอยู่ ประมาณ3-5 วันทำการ(กรณีผู้ไม่มีประวัติอาชญากรรม) หากท่านมีประวัติคดีความมาก่อน จะต้องแจ้งให้เราทราบก่อน เริ่มงาน*
เพียงแค่สแกนเอกสารมาที่เรา เราจะเป็นตัวแทนให้บริการและนำเอกสารของท่าน ยื่นขอใบรับรองประวัติอาชญากรรมให้ท่าน พร้อมไปรับและจัดส่งเอกสารกลับไปให้กับท่านโดย FedEx หรือ DHL พร้อมแจ้ง Tracking number เพื่อตรวจสอบสถานะของเอกสารของท่าน
เฉพาะบุคคลสัญชาติไทยสามารถส่งเอกสารมาให้เราทางอีเมล์ได้ ส่วนบุคคลสัญชาติอื่นต้องจัดส่งเอกสารมาให้เราตามที่อยู่ของเรา ทางไปรษณีย์, FedEx หรือ DHL พร้อมต้นฉบับพิมพ์ลายนิ้วมือ จำนวน 2 ชุด)
Why use our services?
You will not lose your documents.
Money transfer international security, save cost can give your friend or your family in Thailand transfer for you
the post of international security we use FedEx or DHL only
all charges except shipping costs FedEx or DHL
Simply scan documents send to us .We will verify and document your representative. To submit a request to resume and delivered back to you by FedEx/DHL with their Tracking number to check the status of your document. (Only Citizen of Thai can send your documents to us by email but Individual citizens must be send by mailed, FedEx or DHL together with the original fingerprint 2 sets).
รับตรวจสอบประวัติอาชญากร ประวัติทางคดีอาญา คดีแพ่ง ใบอนุญาตขับรถ ใบอนุญาตรถขนส่ง ใบสั่ง ทะเบียนรถยนต์ ทะเบียนรถขนส่ง บุคคลพ้นโทษ รถหาย ทรัพย์หาย อุบัติเหตุจราจร เหมาะกับ คู่สมรสที่จะจดทะเบียน การร่วมลงทุนประกอบธุรกิจ บุคคลที่จะเดินทางไปต่างประเทศจะต้องผ่าน ตม. การยื่นขอวีซ่า การขอหนังสือเดินทาง หรือการรับพนักงาน ลูกจ้าง เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยในการประกอบกิจการ หรือนิติบุคคล หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่จะตรวจสอบประวัติทางคดีของพนักงาน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการรับบุคคลเข้าทำงาน
กรณีผู้ร้องขอทำเอง (อยู่ในประเทศไทย)
ประชาชน หรือบุคคลทั่วไป(เจ้าของเรื่อง) สามารถขอถือแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือเอกสารของตนเองจากสถานีตำรวจ หรือ ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการตำรวจสันติบาล (กรณีเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศ)เพื่อนำไปยื่นเรื่องขอตรวจสอบประวัติที่ ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 3 กองทะเบียนประวัติอาชญากร (อาคาร 25 ชั้น 11) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การแจ้งผลตรวจสอบประวัติแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ กรณีตรวจสอบไม่พบประวัติว่าได้เคยทำความผิดคดีอาญามาก่อนใช้ระยะเวลาไม่เกิน 10 วันทำการ กรณีตรวจสอบพบประวัติว่าได้เคยทำความผิดคดีอาญามาก่อนใช้ระยะเวลาไม่เกิน15 วันทำการ นับแต่วันที่กองทะเบียนประวัติอาชญากรได้รับเอกสารถูกต้องครบถ้วน
หากมีความจำเป็นต้องการขอรับผลการตรวจสอบประวัติเป็นการเร่งด่วน ขอให้ยื่นคำร้องด้วยตนเองที่ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร 3 กองทะเบียนประวัติอาชญากร (อาคาร 25 ชั้น 11)
กรณีผู้ร้องขอพำนักอยู่ในต่างประเทศ
ท่านสามารถส่งเอกสารทางไปรษณีย์มายังศูนย์บริการออกหนังสือรับรองความประพฤติ โดยต้องจัดเตรียมเอกสารสำหรับกรณีต่าง ๆ ดังนี้
1.1 สำหรับบุคคลสัญชาติไทย
1.)สำเนาหนังสือเดินทาง
2.) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3.) สำเนาทะเบียนบ้าน
4.) สำเนาทะเบียนบ้าน
5.) สำเนาหลักฐานทางทหาร (สด.8 หรือ สด.43 หรือหนังสือรับรองการเรียน รด. หลักสูตร 3 ปี หรือ 5 ปี สำหรับชายไทยอายุ 20 ปี ขึ้นไป และ สด.9 สำหรับชายไทย อายุ 17-19 ปี)
6.) สำเบาใบสำคัญการสมรส หรือใบสำคัญการหย่า (ถ้ามี)
7.) รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
สถานที่ตั้งศูนย์บริการออกหนังสือรับรองความประพฤติ และการติดต่อ
ศูนย์บริการออกหนังสือรับรองความประพฤติ
ตั้งอยู่ที่ อาคาร 24 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
การรับหนังสือรับรองความประพฤติ
สามารถทำได้ 3 วิธี คือ
• มารับด้วยตนเอง
• มอบอำนาจให้ผู้อื่นมารับแทน
• ให้ศูนย์บริการฯจัดส่งหนังสือรับรองความประพฤติให้ทางไปรษณีย์ ทั้งนี้ท่านต้องจัดเตรียมซองไปรษณีย์ จ่าหน้าซองที่อยู่ถึงตัวเองพร้อมติดแสตมป์เพื่อศูนย์บริการฯจะได้จัดส่งหนังสือรับรองความประพฤติกลับไปให้
งความประพฤติต้องลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องในเอกสารต่างๆ ข้างต้นด้วย
ศูนย์บริการออกหนังสือรับรองความประพฤติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
iTS (Immigration and Translation Service) Thailand เป็นบริษัท และสถาบันแปลภาษาแบบครบวงจรที่ดีที่สุดของคุณ เราให้บริการแปลเอกสารโดยเจ้าของภาษา ที่มีความรู้ความสามารถในการแปลเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นการแปลงานกฏหมาย แปลงานทางการแพทย์ แปลงานทางดานวิศวกรรม แปลงานทางด้านการเงิน แปลงานทางด้านการศึกษา แปลงานทางด้านสัญญาเกี่ยวกับธุรกิจ และนอกจากนั้น เรายังสามารถแปลงานได้ทุกประเภท ทุกชนิด และทุกภาษา ซึ่งลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้งานแปลที่ถูกต้องตามหลักภาษา กระชับ เข้าใจง่าย และสามารถนำไปใช้งานได้จริง
iTS (Immigration and Translation Service) Thailand เป็นบริษัท และสถาบันแปลภาษาที่เปิดให้บริการลูกค้ามาตั้งแต่ปี 2009 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนบริษัท องค์กร หน่วยงาน หรือแม้แต่บุคคลธรรมดาทั่วไป ที่ต้องการแปลภาษา เพื่อการติดต่อทางธุรกิจ ขายงาน หรือขยายฐานลูกค้าไปทั่วทุกมุมของโลก ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไร หรืองานประเภทไหน เราก็สามารถให้บริการได้ เรามีทีมงานแปลอยู่ทั่วทุกมุมโลกและทุกภาษา เปิดบริการมาอย่างยาวนาน มีทีมให้คำแนะนำและปรึกษาเกี่ยวกับการแปลและรับรองเอกสาร มีหน้าร้านมากวว่า 22 สาขาในประเทศไทย คิดถึงเรื่องการแปลภาษา โปรดคิดถึงเรา
เงื่อนไขการใช้บริการ
ในกรณีที่ลูกค้าตกลงใช้บริการและชำระเงินแล้วไม่สามารถคืนเงินได้ทุกกรณี
รับผิดชอบความเสียหายตามมูลค่างานแปลเท่านั้น
ทางบริษัทฯ จะดำเนินการแปลเอกสารตามต้นฉบับเท่านั้นหากกรณีมีการเปลี่ยนแปลงต้นฉบับภายหลังจากงานที่อนุมัติงานแปลแล้วทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์คิดเป็นค่าบริการแปลใหม่ทั้งหมด
ในกรณีที่งานแปลมีความผิดพลาดที่เกิดจากทีมผู้แปลเช่นการสะกดคำ ผิด หรือลูกค้าต้องการให้ปรับเปลี่ยนการใช้
ภาษาสามารถทำได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ส่งมอบงานแปลแล้ว แต่ทั้งนี้การแก้ไขดังกล่าวจะต้องไม่บิดเบือนไปจากต้นฉบับ
ในกรณีที่ลูกค้าต้องการแก้ไขงานแปลหลังจากเกิน 30 วันแล้วทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คิดเป็นค่าแปลใหม่ทั้งหมด
ในกรณีที่ยอดเงินไม่ถึง100,000บาทลูกค้าต้องชำระค่าบริการเต็มจำนวน
ถ้ายอดค่าบริการเกิน 100,000บาทสามารถมัดจำ50%ของค่าบริการ
ก่อนตกลงใช้บริการทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับผู้ใช้บริการให้รับทราบแล้วว่าทางบริษัทมีหน้าที่แปลและรับรองเอกสารให้เท่านั้นจะไม่มีการไปให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเป็นพยานในชั้นศาลทางลูกค้าเข้าใจรับทราบและยอมรับเงื่อนไขก่อนตกลงใช้บริการ
After the customer agrees to use the service and has made the payment, a refund cannot be made in all cases.
The company will be responsible for any damages according to the value of the translated document only
The company will translate the documents according to the original only. If the detail in the original document has changed after the translation is approved, the company reserves the right to charge for all new services.
In case of the translation has an error caused by the translators, such as a misspelling or the customer wants to change the word in the language. We will revise it for free 1-time within 30 days from the delivery date. However, such amendments must not be distorted from the original.
In case of the customer wants to modify the translation work other than Article 4, the company reserves the right to charge the payment for all new services again.
Certification of documents, whether certified by the translation institution, Consular, NAATI, and Notary Public, the customer acknowledges and chooses the service by himself/herself. If the certification is the wrong type or the accreditation process is not complete. The customer will have to make the payment for all new services again.
If the amount of service is less than 100,000 baht, the customer must make the payment in full. If more than 100,000 baht, the customer is able to deposit 50% of the total fee.
Before agreeing to use the service, The staff has informed the customer that the company is responsible for translate and certify documents only. There will be no testimony to the police or being a witness in any courts. The customer understood, acknowledged, and accepted the conditions.